กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยจากการประชุมทางไกลติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปี 2568 โดยมี นายสมศักดิ์
เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ขอให้ประชาชนเช็ค
ค่าฝุ่นหากเกินค่ามาตรฐาน (สีส้ม – สีแดง) ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะเด็กเล็ก หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย หรือ N95 เตือน เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่แนะนำใส่สวมหน้ากาก
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงวันเด็กหลายพื้นที่จะมีการ จัดกิจกรรมวันเด็ก ให้เด็ก ๆ ออกมาวิ่งเล่น ออกกำลังกาย แข่งขันกีฬากลางแจ้ง กรมอนามัย จึงได้ตรวจสอบและคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคกลาง พบว่า ช่วงวันที่ 11-13 มกราคม 2568 ค่าฝุ่นมีแนวโน้มดีขึ้นอยู่ในระดับสีเขียว และสีเหลือง และจะกลับมาเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม และสีแดง ช่วงวันที่ 14-15 มกราคม 2568 ทั้งนี้ ขึ้นกับสภาพอากาศและปัจจัยภายนอก เช่น การเผา หรือ ไฟป่า ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด สำหรับข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพ สำหรับประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็กขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและจัดให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย หรือ N95 มีขนาดที่เหมาะสมกับใบหน้าและสวมใส่ให้กระชับกับใบหน้าของเด็ก เตือน เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่แนะนำใส่สวมหน้ากาก เนื่องจากมีความเสี่ยงในการหายใจไม่ออก และเด็กไม่สามารถสื่อสารหรือช่วยเหลือตัวเองโดยการดึงหน้ากากออกเองได้ แนะนำให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองได้เบื้องต้น สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ ควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม และทานยาประจำสม่ำเสมอ โดยผู้ปกครองควรพกยาที่จำเป็นติดตัว เพื่อให้เด็กใช้เมื่อมีอาการกำเริบ สำหรับสถานศึกษา ควรเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธง การออกกำลังกายหรือแข่งกีฬากลางแจ้ง และสื่อสารข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียนอยู่เสมอ ขอความร่วมมือผู้ปกครองดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ไม่ควรติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ระหว่างรอ
พญ.อัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสภาพอากาศหนาวอุณหภูมิที่ลดลง เกิดการระบายอากาศต่ำ ส่งผลให้ฝุ่นละอองไม่กระจายตัวและลอยสะสมอยู่ในบรรยากาศ จึงมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 -10 มกราคม 2568 พบว่า ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานถึง 56 จังหวัด โดยอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) กว่า 15 พื้นที่ นอกจากนี้ ในปี 2567 พบว่า เด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 0–4 ปี จำนวน 2,322,319 ราย อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน และการเจ็บป่วยด้วยโรคหอบหืดในเด็กเล็ก 0-4 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบอัตราป่วยในปี 64 จำนวน 79.10 ต่อแสนประชากร ปี 65 จำนวน 75.35 ต่อแสนประชากร ปี 66 จำนวน 183.95 ต่อแสนประชากร และปี 67 จำนวน 182.63 ต่อแสนประชากร
จากข้อสั่งการในการประชุมทางไกลฯ ของกระทรวงสาธารณสุข จึงได้กำหนดมาตรการและมีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานของสาธารณสุขเร่งสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน แจ้งเตือนประชาชน ลดและป้องกันผลกระทบกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เสี่ยงจาก PM2.5 จัดบริการทางการแพทย์ให้ครอบคลุม จัดทำห้องปลอดฝุ่น และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข
“ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตอาการผิดปกติ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก หากพบอาการ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด ให้รีบพาไปพบแพทย์ สามารถประเมินอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองเพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพของเด็ก ได้ที่ https://4health.anamai.moph.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมอนามัย 1478” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว