เนื่องด้วยปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีรูปแบบที่ซับซ้อน พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และยากต่อการถูกจับกุม เป็นผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทยอย่างมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล บช น.น. มอบหมาย สืบนครบาลตรวจสอบจากผู้เสียหายที่ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยแกะรอยจากคดีผู้เสียหายจาก อยุธยา อ้างตำรวจ สภ เมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ความเสียหาย 10,600 บาท แจ้งความผ่าน ศูนย์ AOC 1441 โดยใช้เวลาตรวจสอบกว่า 30 วัน จนกระทั่งพบออฟฟิศสั่งการอยู่ย่านหัวหมาก มีตั้งกล้องวงปิด ดูหน้าห้องสั่งการผ่านทางออนไลน์จากที่อื่น ขยายผลพบจับกุมคนร้ายชาวจีน ย่านรัชดา โดยใช้วีซ่า นร. พบสัญญาเช่าห้องอีก 10 แห่ง ผู้ต้องหาอ้างมาเที่ยวไทย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร จตช. / ผอ.PCT , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ทำการสืบสวนติดตามจับกุม กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขยายผลถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด
จนกระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้นำหมายค้นของศาลอาญา ที่ 1170-1171/2567 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เข้าค้นห้องพักที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 จุด ได้แก่ ห้องพักเลขที่ 2116/101 อาคาร 1 พนาสินเพลส ซ.รามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ผลการตรวจค้นและยึดของกลาง คืออุปกรณ์ SIM BOX จำนวน 8 ชุด รุ่นไม่มีซิมการ์ด (แบบใหม่), เร้าเตอร์ อินเทอร์เน็ต จำนวน 2 เครื่อง,สวิตช์ฮับ จำนวน 1 เครื่อง,กล้องวงจรปิด จำนวน 1 เครื่อง,อุปกรณ์สำรองไฟ จำนวน 1 เครื่อง,กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 ใบ (พบบนเตียง), กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ สีฟ้า จำนวน 1 ใบ,อุปกรณ์สายแลน จำนวน 8 สาย กล่องลังใส่ SIM BOX จำนวน 8 กล่อง (พบในตู้เสื้อผ้า)และอีกจุดคือห้องพักเลขที่ 511 AT รัชดา ถ.รัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. ผลการตรวจค้นและจับกุมตัว Mr.MINGHONG TAN หรือคุนหมิงอายุ 19 ปี สัญชาติจีน (ผู้เช่าห้องพักเลขที่ 2116/101 อาคาร 1 พนาสินเพลส ซ.รามคำแง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เพื่อวางเครื่อง SIM BOX)
จากการสอบถาม Mr.MINGHONG TAN ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตนเป็นเพียงนายหน้ารับเช่าห้องพักใน กทม. ให้คนจีน จากการตรวจสอบห้องพักให้ พบสัญญาเช่าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบเพิ่มเติม จากการสืบสวนการกระทำดังกล่าวของกลุ่มคนร้ายมีการใช้เครื่องมือ SIM BOX เป็นตัวกลางในการโทรศัพท์มาจากต่างประเทศผ่านเครื่อง SIM BOX เพื่อให้หมายเลขโทรศัพท์ ที่ปรากฎบนเครื่องโทรศัพท์มือถือของเหยื่อหรือผู้เสียหายเป็นหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศไทย ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.6 พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ,ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.11 พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ,ใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตาม ม.67(3) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 จับกุมที่อาคาร 1 พนาสินเพลส ซ.รามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนรู้เท่าทันกลโกง ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายคอลเซนเตอร์ หากได้รับสายจากหมายเลขโทรศัพท์แปลกปลอมให้กดวางทันที และตรวจสอบกับช่องทางของหน่วยงานราชการโดยตรง