ดีอี เร่งพัฒนาระบบดำเนินคดีความผิดทางพินัยออนไลน์ ยกระดับกระบวนการยุติธรรมดิจิทัล

147

ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) วันที่ 24 ธ.ค. นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการพัฒนาระบบการดำเนินคดีความผิดทางพินัย ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับนายสราวุธ ปิตุเตชะ เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด นายวิญูญู พิชัย ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา และ นายสมเกียรติ เส็งประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของกระทรวงดีอี สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด

นายวิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงดีอี ได้ร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม ในการเชื่อมโยงระบบยื่นคำร้องขอปิดกั้นเว็บไซต์ทางออนไลน์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ด้วยการนำส่งพยานหลักฐานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์  ซึ่งศาลได้มีกระบวนการพิจารณาคำร้อง การไต่สวนคำร้องผ่านช่องทางออนไลน์ และคำสั่งศาลลงนามโดยใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ทั้งนี้ กระบวนการตั้งแต่ยื่นคำร้องจนศาลมีคำสั่งเป็นการดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทำให้สามารถรับคำสั่งศาลได้ภายในวันที่ยื่น รวมถึงกระบวนการแจ้งคำสั่งศาลไปยังผู้ให้บริการเพื่อให้ทำการระงับปิดกั้น การทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ให้เป็นไปตามคำสั่งศาล ได้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี ได้มีระบบตรวจสอบข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ให้บริการระงับปิดกั้นไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีการแพร่หลายอยู่บนระบบอินเทอร์เน็ตอยู่  พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งคำสั่งปรับพินัยสำหรับกรณีที่ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องบางรายเพิกเฉย หรือไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด และต่อมาผู้ให้บริการได้ใช้สิทธิโต้แย้งคัดค้าน กรณีนี้จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีความผิดทางพินัย เพื่อให้การระงับ/ปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

นายวิศิษฏ์ กล่าวว่าในการประชุมได้มีการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงข้อมูลโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินคดีความผิดทางพินัยเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถรองรับปริมาณคดีและพยานเอกสารจำนวนมาก พร้อมทั้งขยายผลการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์อื่นๆ ช่วยยกระดับการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ขณะนี้สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด มีความพร้อมด้านระบบ Back Office การเชื่อมโยงระบบข้อมูลพิจารณาการดำเนินคดีความผิดทางพินัยร่วมกัน โดยกระทรวงดีอี จะร่วมกับทั้ง 2 หน่วยงานในการทดลองเชื่อมโยงระบบการดำเนินคดีความผิดทางพินัยในช่วงเดือน ม.ค.68 นี้ โดยมุ่งเน้นความสำคัญของเอกสาร และพยานหลักฐานทางคดี ซึ่งกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีความน่าเชื่อถือในความถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับระหว่างหน่วยงาน พร้อมกับระบบความปลอดภัยที่จะใช้การยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaiD โดยหากสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับหน่วยงานราชการอื่น ๆ ด้วย ” ปลัดกระทรวงดีอี กล่าว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี พร้อมที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบบริหารจัดการกระบวนการทำงานภายในหน่วยงาน ( Back Office) ไปในรูปแบบเดียวกัน โดยให้การส่งเสริมการใช้งานระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ขับเคลื่อนการใช้งานระบบ e-Office ภายใต้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันในการให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของแต่ละหน่วยงาน

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #ระบบการดำเนินคดีความผิดทางพินัยออนไลน์ #กระทรวงดีอี #วิศิษฏ์วิศิษฏ์สรอรรถ