ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อสามารถติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงไปกลับมาเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2566 ผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.4 ว่าตนทำอาชีพเป็นพ่อค้าปุ๋ยและเคมีภัณฑ์อยู่ที่ จ.พิษณุโลก ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามา และอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สอบถามเพื่อต้องการให้ตนยืนยันว่ายังทำธุรกิจอยู่จริง ตนเองก็ไม่ได้ระวังหลงเชื่อว่าแค่ต้องการสอบถามข้อมูลเฉยๆ
จากนั้นคนร้ายให้เหยื่อแอดไลน์หน้าไลน์ก็เป็นรูปโปรไฟล์เป็นตรากรมพัฒนาธุรกิจการค้าจริงๆ ยิ่งสร้างความไว้วางใจให้เหยื่อเข้าไปอีก จากนั้นปลายสายบอกว่าเดี๋ยวจะส่งลิงก์ให้และให้เหยื่อเข้าไปกรอกแบบฟอรม์ยืนยันการทำธุรกิจ หลังจากที่เหยื่อกดลิงก์ ปรากฎว่ามือถือค้าง ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีพยายามจะกดปิดเครื่องก็ทำไม่ได้ เมื่อมือถือกลับมาใช้ได้อีกครั้ง พบว่าได้สูญเงินจากบัญชีธนาคารไปเรียบร้อยกว่าล้านบาทแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานพบเส้นทางการเงินของเหยื่อถูกโอนส่งต่อเข้าบัญชีม้าเป็นทอดๆ และในวันที่ 21 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 นำโดย พ.ต.ท.ราชัญ ลำไย รอง ผกก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.ฯ, ร.ต.อ.ยุทธพงศ์ อมรมงคลศิลป์, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.ฯ ได้จับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานะเป็นบัญชีม้าแถวที่ 3 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เป็นเหตุให่เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น”
ภายหลังการจับกุมได้สอบถาม น.ส.เอ ให้การภาคเสธว่าตนไม่เคยไปเปิดบัญชีม้าให้ใครเลย แต่รับรู้ว่าตนมีปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากถูกธนาคารอายัดบัญชีของตนหมดเลยไม่สามารถใช้ได้ จึงเกิดความสงสัยไปติดต่อธนาคาร พบว่าตนเองมีชื่อไปเปิดบัญชีม้าอีก 2 บัญชีด้วยกัน และเล่าให้ตำรวจฟังว่าเมื่อประมาณ ปี 65 ตนขายก๋วยเตี๊ยวอยู่ที่ตลาด จ.จันทบุรี และเกิดร้อนเงินต้องการกู้เงินได้นัดทำสัญญากัน ณ ห้างดังในจันทบุรี ได้พบผู้ให้กู้เป็นหญิงสาวใส่แมสปิดบังใบหน้าขอให้ตนถ่ายรูปสแกนใบหน้า และถ่ายบัตรประชาชนด้านหน้าและหลัง ได้เงินมา 2,000 แต่ตนเองก็ตะหงิดใจจึงได้เก็บหลักฐานแชทสนทนาระหว่างผู้ปล่อยกู้ไว้ และคิดว่าการที่มีชื่อไปเปิดบัญชีม้า 2 บัญชีก็น่าจะมาจากเหตุการณ์วันดังกล่าวแน่นอน