สืบเนื่องจากสืบนครบาลได้รับทราบว่า มีผู้เสียหายร้องทุกข์เข้ามายังเพจสืบนครบาลว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุที่มีลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายเด็ก ผู้สูงอายุ พยายามลักทรัพย์ผู้สูงอายุ ฯ โดยตรวจพบข้อมูลจากหลักฐานการแจ้งความ และกล้องวงจรปิดภายในบ้านของผู้เสียหาย อีกทั้งพบว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พายายฮวย วัย 85 ปี เข้าพบผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้าน น.ส.นภสร หรือกระต่าย ที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่า 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทุบตีคุณทวดมาแล้ว ประมาณ 30 ครั้ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวสืบสวนจับกุมตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส. นำโดย พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้จับกุมตัวน.ส. นภสร หรือ “กระต่ายแสนกล” มีประวัติ อายุ 49 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 13 หมู่18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1234/ 2567 ลงวันที่ 11 กันยายน 2567กระทำความผิดฐาน ”ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย“
จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 91 ซอยรัฐขจร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ จากการสอบถามากผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ตนได้โพสต์ในกลุ่ม “หาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ” บนกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยทางผู้เสียหายต้องทำงานประจำ และมีภาระต่างๆภายในบ้าน พอมีกำลังที่จะจ้างพนักงานประจำ เพื่อจัดหาผู้ดูแลมารดาของตนซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และป่วยนอนรักษาตัวที่บ้าน(ผู้ป่วยนอนติดเตียง) จึงมีผู้สนใจติดต่อเข้ามา ตามเบอร์โทรที่ตนแจ้งไว้ตามโพสต์ประกาศหาคนดูแลผู้สูงอายุ ต่อมาผู้ต้องหารายดังกล่าว พยายามขอเข้าทำงาน ตนจึงรับเข้าทำงาน ภายหลังจากพูดคุย ซักถามถึงประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงวัย จึงให้เริ่มงาน วันที่ 11 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา จนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ตนและภรรยาสังเกตุเห็น มารดาวัย83ปี มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า และลำตัว จึงได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด มาโดยตลอดจนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 และเก็บรวบรวมหลักฐานผ่านกล้องวงจรปิด ที่ตนเองติดตั้งภายในห้องที่มารดานอนป่วย จึงพบพฤติการณ์ที่สะเทือนต่อจิตใจ นำมาซึ่งความเจ็บปวดแก่สมาชิกในครอบครัวและต้วมารดาที่ป่วยฯ พบว่า น.ส.นภสร ได้กระทำการทุบตี มารดาของตนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ตั้งแต่รับเข้าทำงาน จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ตนจึงได้พูดคุยสอบถาม กับ ผู้ตัองหา ถึงสาเหตุในการกระทำ โดยเบื้องต้นให้การยอมรับกับตน และครอบครัว ว่าเป็นผู้กระทำตามภาพที่ปรากฎในวงจรปิด จากนั้นไม่ได้สำนึกในการเข้ามาขอโทษ อีกทั้งมีพฤติการณ์แสดงท้าทายไม่ยำเกรงต่อผู้เสียหายและครอบครัว
ผู้เสียหายยังได้ตรวจสอบยังสมาชิกในกลุ่ม “นายจ้าง หาคนดูแลผู้สูงอายุ” พบผู้เสียหายให้ข้อมูลจำนวนมาก ในพฤติการณ์คล้ายคลึงกันของผู้ต้องหารายนี้ ตนจึงเข้าแจ้งความในวันที่12 กรกฎาคม 2567 และเข้าไปรัองทุกข์ยังเพจ“สายไหมต้องรอด” เพื่อให้การช่วยเหลือและรับเป็นคำร้องทุกข์ที่เป็นภัยอันตรายต่อสังคม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่หวังเพียงได้รับการดูแลมารดาอย่างมีจรรยาบรรณ จึงให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากการซักถามในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแต่ให้การยอมรับ ว่าบุคคลดังกล่าวในภาพและชื่อสกุล เป็นตนเองตามหน้าหมายจับ แต่ปฏิเสธการทำร้ายร่างกาย และ ยังให้การว่า ตนไม่ทราบเลยว่ามีหมายเรียก และหมายจับส่งไปยังบ้าน เพราะตนเองไม่เคยกลับเข้าไปบ้านอีกเลย นับตั้งแต่ ทำงานรับดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มว่า ปกติตนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยว่านายจ้าง ว่าจ้างให้ไปที่ไหน ตนก็จะขอดูแลกับเคสที่มีที่พักอาศัย เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ทราบข้อมูลว่าตนมีคดีติดตัว ผู้ต้องหาให้การว่า ตนไม่เคยมีพฤติการทุบตี ทำร้ายใคร ตนรักผู้สูงอายุ และรักเด็ก เป็นคนธรรมะเข้าวัดฟังธรรมมาโดยตลอด
.
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และผู้เสียหายร้องทุกข์
ยังพบว่ามีผู้เสียหายอีกบางราย ที่ถูกผู้ต้องหารายดังกล่าวนี้ ก่อเหตุในลักษณะคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีข้อมูลยืนยันจากใบแจ้งความฯ และได้ลงบันทึกประจำวัน การทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ฯ อันก่อให้เกิดความเสียหายทั้งร่างกาย และจิตใจแก่ญาติ และผู้สูงอายุตามบ้านที่ผู้ต้องหาเข้าไปดูแลอีกหลายคำร้องทุกข์ฯ จากนั้นจึงได้ทำบันทึกการจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนประชาชน การหาคนดูแลผู้สูงอายุจึงควรมีปัจจัยหลายข้อด้วยกันเพื่อคำนึงถึงก่อนเลือกใช้บริการหาคนดูแลผู้สูงอายุ ความน่าเชื่อถือและมาตรฐาน ไม่ควรคำถึงเรื่องราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่การหาคนดูแลผู้สูงอายุจะต้องมีพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ หรือบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง มีคุณภาพและมาตรฐานในการดูแลผู้สูงอายุ บริการต่างๆ ที่ครบครัน โดยไม่เพียงแค่ดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ต้องดูแลรักษาสุขภาพใจได้ด้วยและต้องถูกต้องตามกฎหมาย และควรติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในห้องที่ดูแลตลอด24ชั่วโมง