ผบ.ทบ. ย้ำดูแลสิทธิสวัสดิการกำลังพลที่ประสบอุทกภัยพร้อม ช่วยเหลือประชาชนเร่งฟื้นฟูพื้นที่ – ด้านชายแดนให้กำชับสกัดกั้นยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (9 ธ.ค.67) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองเลขานุการกองทัพบก และโฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันต่อผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกผ่านระบบการประชุมออนไลน์
ในช่วงเริ่มการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกล่าวขอบคุณทุกหน่วยที่ได้ปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย ทั้งนี้ขอให้กองทัพภาคที่ 4 ดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่เข้าช่วยเหลือประชาชน และดูแลให้ได้รับความช่วยเหลือตามสิทธิกำลังพลที่ประสบภัยพิบัติทั้งในส่วนของรัฐบาลและของกองทัพบก
ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ระดมทรัพยากรช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว โดยในส่วนของสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นเดียวและระดับน้ำท่วมสูงทำให้เครื่องมือทางการแพทย์ได้รับความเสียหายกว่า 90% นั้น มณฑลทหารบกที่ 46, กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15, หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์ อพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเครื่องมือบางส่วนไปยังโรงพยาบาลปัตตานีตั้งแต่วันที่เกิดเหตุและปัจจุบันหน่วยได้ร่วมฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการประชาชนและผู้ป่วยได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ได้นำรถติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน MFB (Modular Fast Bridge) ที่ประจำการในหน่วย 5 คัน ออกมาวางเชื่อมเส้นทางหลักที่ได้รับผลกระทบจากการถูกกระแสน้ำตัดขาดรวม 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณบ้านบายิ ม.4 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา และบ้านไอร์ปูลง ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดน โดยเน้นย้ำให้ดำรงความต่อเนื่องในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน ซึ่งในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันชายแดนสามารถจับกุมยาบ้ารวมจำนวน 10,872,047 เม็ด, ไอซ์ 380 กิโลกรัม, ฝิ่น 739 กรัม, เคตามีน 265 กรัม และเฮโรอีน 152 กรัม นอกจากนี้ ยังสามารถสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 50 ครั้ง รวม 124 คน
ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวชื่นชมการฝึกทหารใหม่ที่ดำเนินการอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยฝึกดำรงมาตรฐานการฝึกอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการดูแลทหารใหม่ในทุกมิติ