วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ระบุ สำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) ซึ่ง สธค. สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นโรงรับจำนำเพื่อสังคม มอบสิทธิพิเศษ ฟรีดอกเบี้ย 1 เดือน สำหรับผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ระหว่างเดือนธันวาคม 2567 – กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปลายปี และเป็นการสนับสนุนทางเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ลดภาระดอกเบี้ยในช่วงเทศกาลปลายปี ที่ประชาชนอาจจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน และสร้างโอกาสทางการเงินให้กับชุมชน โดยโครงการดังกล่าวนั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่ง สธค. จะมอบสิทธิพิเศษ ฟรีดอกเบี้ย 1 เดือน ต่อ 1 รอบตั๋วจำนำ โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานธนานุเคราะห์ โรงรับจำนำเพื่อสังคม โทรศัพท์ 02-2815888 หรือติดต่อสถานธนานุเคราะห์ทุกแห่งใกล้บ้าน
อย่างไรก็ตาม สธค. ดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กร เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้า ขาดแคลนเงินใช้ในการดำรงชีพการประกอบอาชีพ โดยนำทรัพย์สินมาจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และเพื่อเป็นการตรึงระดับอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ มิให้โรงรับจำนำเอกชนเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากประชาชนผู้ใช้บริการเกินอัตราที่กฎหมาย คือพระราชบัญญัติโรงรับจำนำกำหนด
“วราวุธ” โว พม. เปิด ศบปภ. ทันช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง หลังน้ำท่วมภาคใต้ จ่อขยายไปทั่วประเทศ
วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่าทางกระทรวง พม. และผู้บริหารกระทรวง ได้มีการเปิดศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนเกิดอุทกภัย ซึ่งเป็นการจัดหาพื้นที่ให้กับกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาในพื้นที่อุทกภัย เพราะว่าแต่ละกระทรวงจะต้องมีศูนย์ฉุกเฉิน อาศัยรองรับประชาชนที่ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของตนเองได้ แต่สำหรับพี่น้องกลุ่มเปราะบางที่ผ่านมายังไม่มีศูนย์ เพราะว่าเมื่อเวลาเกิดเหตุอย่างเช่นในพื้นที่ภาคใต้ ประชาชนกลุ่มเปราะบางจะต้องได้รับการดูแลในอีกลักษณะหนึ่ง แม้กระทั่งล่ามภาษามือ
นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อกระทรวงเปิด ศบปภ. ก็ทำให้ทันต่อสถานการณ์ เพราะจากการคาดการณ์แล้ว เพราะในช่วงปลายปี พื้นที่ภาคใต้จะเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้มีการทยอยเปิด ศบปภ. ให้ครบทุกจังหวัด และในวันที่ 13 – 14 ธันวาคมนี้ ตนและผู้บริหารกระทรวง พม. จะเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเปิด ศบปภ.
วราวุธ” ระบุ พม. เร่งเดินเครื่องเพิ่มเบี้ยอุดหนุนเด็ก-คนพิการ-ผู้สูงอายุ คาด ได้ใช้ 1 ต.ค. 68
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบข้อเสนอ “การพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน” ของคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (ก.ส.ค.) โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ และตน เป็นรองประธานคณะกรรมการ
สาระสำคัญของข้อเสนอดังกล่าว สำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชน จะมีการปรับฐานกลุ่มเป้าหมายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นการให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า โดยไม่ต้องมีการคัดกรองรายได้ของครอบครัว (จากเดิมครัวเรือนต้องมีสมาชิกที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี) และขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุม เริ่มจากเด็กในครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 6 ปี (จากเดิมตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี) โดยได้รับเงินในอัตรา 600 บาท/คน/เดือน (เท่าเดิม)
กลุ่มผู้สูงอายุ จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได อายุ 60-69 ปี เดือนละ 700 บาท จากเดิม 600 บาท อายุ 70-79 ปี เดือนละ 850 บาท จากเดิมเดือนละ 700 บาท อายุ 80-89 ปี เดือนละ 1,000 บาท จากเดิมเดือน 800 บาท และตั้งแต่อายุ 90 ปีขึ้นไปเดือนละ 1,250 บาท จากเดิมได้เดือนละ 1,000 บาท เพื่อให้เพียงพอต่อค่าครองชีพของผู้สูงอายุในสถานการณ์ปัจจุบัน
และกลุ่มคนพิการ จะมีการปรับเบี้ยความพิการให้สอดคล้องกับค่าครองชีพเป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการนำคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ สามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและเป็นธรรม
นายวราวุธ กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอดังกล่าวในประเด็นเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ ดังนี้ เมื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งมติ ค.ร.ม. กลับมายังกระทรวง พม. ให้ทราบ พร้อมความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประกอบ ทางกระทรวง พม. จะดำเนินการพิจารณาในส่วนของการจัดทำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ 1) การจัดทำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเด็ก ผู้สูงอาย และคนพิการ เพื่อให้ได้จำนวนกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการ 2) ประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง สำหรับแหล่งทุนในการดำเนินการ และ 3) กำหนดแนวทางในการโอนเงินให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอสำหรับการจัดสวัสดิการถ้วนหน้า โดยการได้รับสวัสดิการเป็นไปตามสิทธิ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณาการจัดการเพื่อให้เข้าถึงสิทธิในแต่ละกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“สำหรับแผนการดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว คาดว่าหากไม่ติดขัดในประเด็นใด ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มจะได้รับเงินต่างๆ” นายวราวุธ กล่าวในตอนท้าย
#ข่าวพม #พม #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม#สธคฟรีดอกเบี้ย # #โรงรับจำนำเพื่อสังคม #สำนักงานธนานุเคราะห์ #ของขวัญปีใหม่2568

