ผบ.ตร.สั่งตำรวจ ภ.8 และ ภ.9 ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้เต็มที่ ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติมประชาชน

67

ผบ.ตร.สั่งตำรวจ ภ.8 และ ภ.9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัยอย่างเต็มที่ นำแนวทางที่สั่งถอดบทเรียนในพื้นที่ประสบภัยที่ผ่านมา มาปรับใช้

วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที พร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งดูแลในส่วนของข้าราชการตำรวจ และสถานที่ราชการของตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย

สถานการณ์อุทกภัยล่าสุดยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่
(1)จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ คือ กาญจนดิษฐ์ , ดอนสัก ระดับน้ำลดลง
(2)จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 อำเภอ คือ ชะอวด , เฉลิมพระเกียรติ , พระพรหม , เมืองฯ , ร่อนพิบูลย์ ระดับน้ำลดลง
(3) จังหวัดสงขลา 1 อำเภอ คือ ระโนด ระดับน้ำทรงตัว
(4) จังหวัดปัตตานี 2 อำเภอ คือ มายอ , ทุ่งยางแดง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
(5)จังหวัดยะลา 1 อำเภอ คือ บันนังสตา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
(6)จังหวัดนราธิวาส 5 อำเภอ คือ บาเจาะ , แว้ง , รือเสาะ , เจาะไอร้อง , สุคิริน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้ง 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม 2567

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ภ.8 และ ภ.9 ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ในทุกด้าน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ประสบปัญหา พร้อมทั้งออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติม หากพบให้ดำเนินคดีทุกราย และให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ) , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , สำนักงานส่งกำลังบำรุง สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ และกองบินตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมการอพยพช่วยเหลือประชาชน ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือทางการแพทย์

นอกจากนี้ ให้นำแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดอุทกภัย ภัยพิบัติ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมา มาปรับใช้ ซึ่งได้สั่งการให้ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ต่างๆ ต่อไปไว้แล้ว และเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยด้วย โดยเน้นเรื่องความเป็นอยู่และสวัสดิการอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวตำรวจ