หลังนายทักษิณ ชินวัตร พ่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศกร้าวบนเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุดรธานี ให้บรรดาพ่อค้ายาเสพติดเลิกขายยา แต่ถ้าไม่เลิกจะเจอมาตรการเด็ดขาด
ปรากฏว่ามีเสียงขานรับจากประชาชนจำนวนมาก รวมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายวิสุทธิ์ ไชยอรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ว่าถ้าปราบปรามยาเสพติดบรรลุเป้าหมายเลือกตั้งสมัยหน้าเพื่อไทยได้ สส.เกิน 200 คนแน่นอน
สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่คนทั้งประเทศกำลังเผชิญอยู่ ที่ผ่านมาเคยคาดหวังกับนายเศรษฐาทวีสิน อดีตนายรัฐมนตรีว่ายาเสพติดลดลงภายใน 1 ปี 4 ปี หมดไป แต่ไม่ได้เป็นดังที่คุยไว้
มาถึงยุค น.ส.แพทองธาร ให้ความสำคัญเช่นกัน แต่จะใช้วิธีแก้ปัญหาแบบนำร่อง 10 จังหวัดให้ยึดโมเดลจากร้อยเอ็ดและน่าน ถึงขั้นประกาศว่าก่อนถึงสงกรานต์ปีหน้า 10 จังหวัดนำร่องยาเสพติดจะลดลงเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แน่นอน
“จอมมารน้อย”เคยเขียนว่าถ้าให้บรรลุผลจริงๆต้องทำพร้อมกันทั่วประเทศทั้งปราบปราม บำบัด และสร้างอาชีพ เพราะถ้าใช้วิธีนำร่องทีละ 10 จังหวัดจะไม่บรรลุผล มีตัวอย่างปรากฏเป็นข่าวว่าอดีตนายช่างอบต.แห่งหนึ่งในจ.สกลนคร โปรยยาบ้าบนเวทีประกวดช่วงงานลอยกระทง ตำรวจเข้าจับกุมตรวจสอบประวัติพบว่าเพิ่งออกจากสถานบำบัด แสดงให้เห็นว่าพอบำบัดเสร็จกลับมาสู่สิ่งแวดล้อมเดิมๆ การบำบัดจะไร้ผล
ในช่วงรัฐบาลเศรษฐา เคยนำเสนอข้อมูลและแนวทางป้องกันและปราบยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ขอยกมานำเสนออีกครั้ง โดยให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานเชิงรุกแบบบูรณาการ ก่อนลงมือจัดอีเว้นท์ประกาศให้คนทั้งประเทศได้ทราบว่าจะปราบปรามยาเสพติดแบบเด็ดขาด จากนั้นติดตามผลทุก 1สัปดาห์หรือทุก 15 วัน
ขั้นแรกประกาศให้ผู้เสพสมัครใจเข้าบำบัดใช้ค่ายทหารเป็นสถานที่ ฝึกแบบทหาร ดึงเจ้าหน้าที่จิตเวชของกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปช่วยปรับสภาพจิตใจ ผู้เสพที่ไม่สมัครใจให้ทางผู้ว่าฯสั่งการให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศมนตรี ฝ่ายปกครองและตำรวจ ร่วมกันเอกซเรย์ผู้เสพแล้วนำเข้าบำบัดแบบเดียวกัน
ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ผนึกกำลังกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ทุกระดับนำนักเรียนและนักศึกษา ทุกคนตรวจหาสารเสพติดหากพบว่ามีเสพนำเข้าบำบัดทันที ถ้าพบว่าเป็นเอเย่นต์หรือผู้ค้ารายย่อยส่งตำรวจดำเนินคดี และอีกแห่งที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดคือวัด มีข่าวบ่อยครั้งว่าพระตั้งวงเสพยาและบางรูปเป็นผู้ค้ารายย่อยรับยาเสพติดขายให้กับพระและวัยรุ่นในละแวกวัดอีกต่างหาก ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอและสำนักพุทธศาสนา ต้องร่วมมือกันดำเนินการ
ข้อเสนอนี้อาจจะมีผู้ไม่เห็นด้วยเพราะจะทำลายชื่อเสียงของสถานศึกษาและวัด แต่ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งบอกว่า ถ้ารัฐบาลจะปราบปรามยาเสพติดจริงๆ น่าจะเริ่มที่สถานศึกษาและวัดก่อน เพราะเป็นจุดเปราะบางที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่คาดคิดว่าจะแพร่ระบาดมากนัก แต่ความเป็นจริงแล้วมีตัวเลขที่หน้าใจหาย
“ถ้ารัฐบาลเอาจริงและสังคมไม่ดัดจริต ควรจะเอกซเรย์ในสถานศึกษาและวัดก่อน ด้วยการให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมกันตรวจปัสสาวะของนักเรียน นักศึกษาและพระสงฆ์ หากพบนำเข้าบำบัดทันที เข้มงวดในทุกกระบวนการและทำไปพร้อมๆกับการปราบปรามผู้ค้าอย่างเฉียบขาด”คุณครูระบุและว่าถ้ารัฐบาลทำได้จริงจะพบว่าจำนวนผู้เสพแบบคาดไม่ถึงแน่นอน
อีกชุดหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกันนั่นคือเรือนจำ อดีตผู้คุมเล่าว่าเมื่อจับผู้ค้ารายย่อยส่งเข้าคุก จะมีผู้ค้ารายใหญ่เป็นขาใหญ่ในคุก ให้ลูกน้องเรียกผู้ค้ารายย่อยไปพบชักชวนให้ร่วมแก๊ง หากตกลงเมื่อพ้นโทษให้ไปติดต่อเครือข่ายที่อยู่นอกคุกแล้วจะตั้งให้เป็นเอเย่นต์ด้วย
“นักค้ารายใหญ่ที่ติดคุกไม่อยากจะออกจากคุก เพราะอยู่ในคุกทำธุรกิจค้ายาได้ง่ายเพราะมีผู้คุมนอกแถวดูแลเป็นพิเศษเพราะจ่ายปัจจัยแบบไม่อั้น แม้กรมราชทัณฑ์จะมีเรือนจำความมั่นคงสูงไว้ขังนักโทษค้ายารายใหญ่ที่เขาบิน ราชบุรี สกัดการติดต่อทุกทาง แต่ขาใหญ่ยังสามารถใช้โทรศัพท์สั่งการแก๊งค้ายาอย่างสะดวก”อดีตผู้คุมบอกและว่าพวกเขายอมจ่ายในราคาสูงลิ่วเพื่อให้ธุรกิจค้ายาเดินหน้าสะดวก วิธีนี้ยังดำเนินการตามปกติ โดยไม่มีใครกล้าแตะเพราะปัจจัยถูกแจกจ่ายอย่างทั่วถึงทุกระดับยันบิ๊กๆในกระทรวง
ชุดความจริงนี้มองเผินๆอาจจะไม่จริงก็ได้ แต่นายกรัฐมนตรีลองสั่งการให้สืบในทางลับดูก็ไม่เสียหาย ถ้าไม่จริงถือว่าโชคดีที่การค้ายาผ่านคุกถูกสกัดแล้ว เมื่อดำเนินการให้ผู้เสพเข้าบำบัดแล้ว นายกรัฐมนตรีให้นโยบาย ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และ ปปง.เดินหน้าปราบปรามผู้ค้าแบบเฉียดขาดถอนรากถอนโคน เมื่อผู้เสพที่ผ่านการบำบัดออกมาจะไม่เจอกับสิ่งแวดล้อมเดิมๆจะช่วยให้เลิกยาได้อย่างเด็ดขาด แต่นายกรัฐมนตรีต้องพร้อมที่จะเป็นกำแพงให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยพิง เพราะแก๊งค้ายามีอิทธิพลสูงแถมมีคอนเนคชั่นกับผู้กว้างขวางเกือบทุกวงการ
จากข้อมูลที่นำเสนอถ้ารัฐบาลจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ในทุกองคาพยพ เชื่อว่าผลงานนี้จะช่วยส่งให้พรรคเพื่อไทยผงาดตามที่บรรดาแกนนำคาดหวังไว้อย่างแน่นอน !!!