นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ภายใต้ชื่อเรื่อง “พลังประชารัฐ….ทางแพร่งที่ต้องเลือก” โดยระบุว่า “หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวไปเมื่อวานทำให้ตลาดการเมืองเริ่มคึกคักและมีสีสันมากยิ่งขึ้นที่สำคัญทำให้เริ่มเห็นภาพทางการเมืองในกระดานเพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมือง และเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มสุดท้ายที่สังคมจดจ่อติดตามที่สำคัญเป็นพรรคที่โยงกับรัฐบาลและ คสช.ด้วย
ความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐต้องยอมรับว่ามีมากกว่าพรรคอื่นๆ เพราะเป็นพรรคที่มีอำนาจรัฐในมือ แต่จุดแข็งตรงนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้เช่นกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี แม้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้บังคับให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกก็ตามแต่สังคมจะตั้งคำถามถึงความชอบธรรม ฉะนั้นต้องจัดความสัมพันธ์ในการทำงานจากนี้ไปอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบกับ ทั้งพรรคและรัฐบาลไปพร้อมๆ กันได้
ซึ่งแน่นอนจะเป็นเป้าโจมตีให้กับพรรคคู่แข่งทางการเมืองหรือสะดุดขาตัวเอง ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก
ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้เมื่อถึงจุดหนึ่งเช่น เมื่อ กกต.รับรองความเป็นพรรคของพรรคพลังประชารัฐผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็อาจจะลาออกในตอนนั้นเพื่อมาทำพรรคเต็มตัวและหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี และอาจจะมีการปรับ ครม.อีกครั้งก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้
จริงๆแล้วพรรคพลังประชารัฐมีคนหน้าใหม่ทางการเมืองและคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมาก และเป็นกลุ่มคนที่ดูค่อนข้างมีความคิดมีพลังที่พรรคควรสนับสนุนให้บทบาท แต่น่าเสียดายที่ถูกบดบังไปจากประเด็นทางการเมืองที่ตกเป็นเป้าโจมตี
ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาว่าที่กรรมการบริหารของพรรคก็จะต้องพิจารณาบทบาทในส่วนนี้อย่างจริงจังเพราะในระยะยาว ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เปรียบทางการเมืองเสมอไป”
พลังประชารัฐ….ทางแพร่งที่ต้องเลือกหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)…
โพสต์โดย สุริยะใส กตะศิลา เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2018