หึ่งอีก ..!!! รายการ”ถกไม่เถียง”ช่อง 7 เปิดโปงข่าวฉาววงในสีกากี..!!!

2064

หึ่งอีก ..!!! รายการ ถกไม่เถียง ช่อง 7 เปิดโปงข่าวฉาววงในสีกากี..!!! สาวช้ำเปิดหน้าสู้ เมียนายพลสีกากี คบซ้อนสามี แถมย่องขึ้นคอนโด ฉกทอง-เงินกว่า 5.7 ล้าน

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่าหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยฯ ได้เปิดใจผ่านรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ว่า สามีเป็นข้าราชการที่รู้จักกันมา 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากันเลยนั้น ได้แอบคุยกับแฟนเก่า ซึ่งปัจจุบันแฟนเก่ารายนี้ได้แต่งงานไปกับอดีตนายตำรวจรายหนึ่ง ซึ่งหญิงรายนี้ คบซ้อนระหว่างสามีกับนายตำรวจระดับนายพลมาโดยตลอด

ซึ่งพบว่าหญิงสาวรายนี้ ทั้งคู่แอบคุยกัน และสามีไม่เคยบอกว่าเป็นแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพว่า ได้ติดต่อให้คำปรึกษากันเท่านั้น แต่สงสัยจึงได้ติดกล้องวงจรปิดในบ้าน ครั้งหนึ่ง สามีบอกว่าขอเจอฝ่ายหญิง เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงเห็นภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดว่า ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันสามียอมรับว่าฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่มก่อน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีทะเบียนสมรสก็ตาม จึงทำให้มีปัญหากันเรื่อยมา

หลังจากทราบเรื่อง ได้ขอร้องอีกฝ่ายว่าให้หยุดติดต่อกับสามี แต่ต่อมาฝ่ายหญิงยังไม่ยอมจบ ยังติดต่อสามีมาตลอด นอกจากนี้ยังพบว่าทรัพย์สินและเงินสดที่เตรียมไว้สำหรับพิธีแต่งงานหายไป จากคำบอกเล่าของหลาน พบว่าฝ่ายหญิงได้เข้ามาที่คอนโดของตน อ้างว่ามาเอาของที่ฝากไว้ แต่กลับเอาทรัพย์สินของตนไปด้วย ตอนนี้ตนไปแจ้งความเอาผิดข้อหาลักทรัพย์ และตอนนี้ไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้

สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้น ได้แก่ ทองคำแท่ง 10 บาท 10 แท่ง , สร้อยคอทองคำ 5 บาท 2 เส้น , สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 5 บาท 1 เส้น , สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท 1 เส้น , พระเลี่ยมทอง 2 บาท 1 องค์ และ เงิน 600,000 บาท รวม 5.7 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว หญิงสาวผู้เสียหายรายดังกล่าว ได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง มีใจความระบุว่า 20 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรายดังกล่าวมา สน.พระโขนงแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุข้าฯ สามีของข้าฯพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบริเวณห้องเลขที่ 8/125 ชั้น 7 กรีนคอนโด ชอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจากเขตพระโขนง กรุงเทพฯ สถานที่เกิดเหตุในคดีนี้ ต่อมาข้าฯ และสามีได้ไปพักอาศัยอยู่ที่ไอคอนโด ห้องเลขที่ 82/60 ต.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เนื่องจากข้าประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐมและนายภีมพจน์ฯ ก็ได้ทำงานรับราชการอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยข้าฯ และสามีก็ได้มาพักผ่อนที่ห้องเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ

ต่อมา ในวันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 14.00น. ข้าฯ ได้ใช้ให้หลานของข้าฯ เข้ามาเอาของที่ห้องเลขที่ 8/125 ชั้น 7 กรีนคอนโด ชอยสุขุมวิท 101
แขวงบางจาก เขตพระโชนง กรุงเทพฯ เมื่อหลานชายข้าเดินทางมาถึงคอนโดดังกล่าวและได้ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 7 เมื่อออกจากลิฟท์แล้ว หลานชายข้า ได้สังเกตเห็น ผู้หญิงที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ใช้กุญแจและคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องเลขที่8/125 ซึ่งเป็นห้องพักของข้าฯ และนายภีมพจน์ฯ หลานชายข้าจึงได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับข้าฯ ทราบ ซึ่งขณะนั้นข้าฯ พักอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ข้าฯจึงได้รีบเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุ โดยข้าฯ เดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 16.00 น. ข้าฯจึงได้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของข้าฯ (ตามบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้าย) ซึ่งข้าฯได้เก็บไว้ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าภายในห้องเลขที่ดังกล่าว ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ข้าฯและนายภีมพจน์ฯ ซื้อร่วมกันเพื่อจะเอาไว้ใช้ในงานแต่งงานระหว่างข้าฯ และสามีได้หายไป ข้าฯเป็นผู้เสียหาย/ผู้ร้องทุกข์ลงชื่อ พ.ต.ท.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม พนักงานสอบสวน บันทึกแจ้งความดังกล่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานอีกว่ากรณีดังกล่าว บรรดาข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และ ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีนี้ และอยากให้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตร. และ ผบ.ตร.ออกมาเร่งสืบสวนความจริง เพราะถ้าหากเป็นจริงตามข่าว จะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมัวหมองซ้ำหนัก จะทำให้ประชาชนขาดความศรัทธาต่อองค์กรตำรวจ ผบ.ตร.จะต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์อย่างเร่งด่วนต่อไป

CR รายการถกไม่เถียง ช่อง 7HD