กรมสุขภาพจิตเร่งลงพื้นที่เยียวยาจิตใจเหตุโศกนาฎกรรมไฟไหม้รถบัส

123

กรมสุขภาพจิตเร่งลงพื้นที่เยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ทางสุขภาพจิตกับทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องทันที

 วันนี้ (1 ตุลาคม 2567) กรมสุขภาพจิต ร่วมดำเนินงานลงพื้นที่ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส ณ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร พร้อมจัดทีมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์และครอบครัวของผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี        

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกภาคส่วนภายในกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญ และมีการหารือเพื่อดำเนินการปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลืออย่างครอบคลุม ซึ่งทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลทางด้านสุขภาพจิตทางกรมสุขภาพจิตได้มีการจัดทำแผน โดยจัดทีมเยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุ ดังนี้ 1. กลุ่มนักเรียนบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส 8 ราย ส่งทีมจิตแพทย์ 1 ราย นักจิตวิทยา 2 ราย รอประเมินและเยียวยาจิตใจครอบครัว  2. กลุ่มนักเรียนที่อยู่ และเห็นเหตุการณ์ รถคันที่สอง จำนวน 16 ราย ส่งทีม MCATT 2 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน) เข้าเยียวยาจิตใจ ถึงพื้นที่แล้ว  3. กลุ่มนักเรียนที่เหลือที่อยู่ในขบวนรถที่ประสบเหตุ ส่งทีม MCATT 1 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน) เข้าเยียวยาจิตใจ ถึงพื้นที่แล้ว 4. กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตที่โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี เตรียมทีม MCATT 1 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน) เข้าเยียวยาจิตใจที่ รพ.ตำรวจ

 นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า กรมสุขภาพจิตขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในกรณีเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทุกคน ซึ่งขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการดูแลจิตใจสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงจากภาวะเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง สิ่งที่ควรทำมีดังนี้ (1) คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กเป็นอันดับหนึ่ง (2)รีบส่งเด็กกลับสู่ครอบครัวและการใช้ชีวิตตามปกติ (3) ผู้ใหญ่จัดการอารมณ์ตนเองเป็นต้นแบบ (4) มีผู้ใหญ่/ผู้ปกครอง ดูแลใกล้ชิด เป็นที่พึ่งทางจิตใจโดยเฉพาะในครอบครัวที่มีการสูญเสีย (5)พาทำกิจกรรมผ่อนคลาย เพื่อหันเหความสนใจจากเหตุการณ์ และสิ่งที่ไม่ควรทำ (1)ไม่ถามเด็กให้เล่าถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ (2) งดนำเด็กมาออกข่าว/เสพข่าว (3) ไม่นำเด็กมาเป็นเครื่องมือการสร้างภาพกระแสดราม่า ทั้งนี้ ทีมเยียวยาจิตใจ MCATT จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตที่ 3 รพ.จิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ รพ.ลานสัก สสอ.ลานสัก และรพ.เครือข่ายใน จ.อุทัยธานี ร่วมประเมินและช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ปกครอง และผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ทำการประเมินคัดกรองสุขภาพจิต 24 ราย พบมีภาวะเครียดระดับน้อย 5 ราย, ปานกลาง 8 ราย, มาก 11 ราย และพบภาวะเศร้า ระดับน้อย 3 ราย, ปานกลาง 3 ราย, มาก 5 ราย โดยให้คำปรึกษารายบุคคล 8 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเฝ้าระวัง 3 ราย คือ ตั้งครรภ์ 1 ราย ความดันโลหิตสูง 2 ราย อีกด้วย

กรมสุขภาพจิต ขอแนะแนวทางในการดูแลญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ดังนี้ (1)แจ้งการสูญเสียด้วยความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ (2) แสดงความเสียใจเป็นข้อความหรือการ์ด (3)ให้ข้อมูลความรู้สุขภาพจิตเบื้องต้น (4) ให้คำแนะนำการปรับตัว การดูแลสุขภาพ ติดต่อสังคมเพื่อนฝูง การไว้อาลัยที่สามารถทำได้ (5) ประเมินสุขภาพจิต  ถ้าพบความเสี่ยงควรส่งต่อทันที (6) สนับสนุนให้ตั้งกลุ่มเพื่อน เพื่อช่วยเหลือกันเอง

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรม