“เจ็ดคด–โป่งก้อนเส้า”ที่เที่ยวสุดฮิตใกล้กรุง เดินป่าเล่นน้ำนอนชิล ชมเห็ดแชมเปญ

768

เที่ยวพักผ่อนนอนชิล ใกล้ชิดธรรมชาติในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กับสถานที่สุดฮิต“เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า”จว.สระบุรี 

กลับมาต่อกันที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “เจ็ดคด”ใน ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จว.สระบุรี ห่างจากกรุงเทพ ประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพไม่ถึง2ชั่วโมง โดยรองเท้าแก้วได้มาเที่ยวและพักผ่อนที่เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เพราะครั้งที่แล้วหลังจากกลับจากเที่ยวน้ำตกสลัดได นครนายก ขับรถตระเวนหาที่พักกันก็เต็มเกือบหมด ที่พอมีก็ไม่ค่อยถูกใจ จึงได้กลับมาพักที่เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ซึ่งรองเท้าแก้วเองเคยมาพักและเที่ยวที่นี่ก็ราวๆ 3-4ครั้งได้ โดยครั้งแรกที่รู้จักคือการเดินทางมาทำข่าวเครื่องบินเล็กตกและหายสาปสูญเมื่อปี 2555 จากนั้นก็มาเที่ยวและพักผ่อนเรื่อยมา เพราะจัดให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาแคมปิ้งสุดๆและที่นี่น่าจะเป็นสถานที่อันดับต้นๆของคนที่ชอบแคมปิ้งเลยก็ว่าได้ 

รอบนี้รองเท้าแก้วก็มากับเหล่าเพื่อนสมาชิกแก๊งเดิม โดยโทรจองบ้านพักภายในศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ราคาบ้านพัดลม 1,000 บาท เมื่อมาถึงก็เข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่และรับกุญแจบ้านและชำระเงิน พร้อมกับแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเย็นนี้ต้องการกินหมูกระทะ ซึ่งก็จะมีบริการส่งถึงที่พักเลย ระหว่างรอเราก็นำกระเป๋าเข้าไปเก็บที่บ้านพัก จากนั้นก็ออกมาเดินมาเดินเที่ยวดูบรรยากาศรอบๆ ซึ่งที่นี่มีจุดถ่ายภาพสวยๆและมองเห็นวิวกางเต็นท์ที่รายล้อมอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ ช่วงที่เราไปถึงเป็นช่วงเย็นๆแล้ว หลายเต็นท์ก็กำลังทำกับข้าวหอมกรุ่นเลยทีเดียว บ้างก็พาลูกหลานมาเดินเล่นและปั่นจักรยานเที่ยวรอบๆ เราใช้เวลาเดินและถ่ายรูปอยู่นานพอสมควรก่อนที่เจ้าหน้าที่จะโทรมาบอกว่า ตอนนี้หมูกระทะกับข้าวไข่เจียวที่สั่งไว้ได้แล้วและกำลังเอามาส่งที่บ้าน เราจึงแยกกันเดินกลับไปที่บ้านพักและส่วนหนึ่งก็แวะไปที่ร้านค้าสวัสดิการเพื่อซื้อเครื่องดื่มและขนมเพิ่มนิดหน่อย ซึ่งที่ร้านค้าสวัสดิการเปิดให้บริการทุกวันแต่จะปิดประมาณ 20.00 น. 

“บรรยากาศในยามค่ำคืนที่เจ็ดคดค่อยข้างจะเงียบสงบเพราะเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมืองดใช้เสียงดังเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนนักท่องเที่ยวท่านอื่น และสัตว์ป่า แต่เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ต่างก็ต้องการความสงบเช่นกันกลางคืนเลยค่อยข้างจะเงียบ เราออกมาก่อไฟและปูเสื่อล้อมวงกินหมูกระทะริมอยู่ระเบียงบ้าน ซึ่งอากาศตอนที่ไปก็ไม่ร้อนและหนาวเกินไปเรียกว่ากำลังพอดีๆกินไปคุยไป มองดาวบนฟ้าไปก็เพลินดีเหมือนกันนะขอบอก หลังจากกินอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน เพื่อนสมาชิกจึงทยอยอาบน้ำและเตรียมเข้านอน เพราะตอนเช้านัดกันว่าจะไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่น้ำตกเจ็ดคตเหนือ เพราะมาหลายครั้งก็จริงแต่ยังไม่เคยไปเดินเลย”

ตอนเช้าๆอากาศค่อยข้างสดชื่น เราจึงเตรียมตัวออกเดินไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดคตเหนือราวๆ 6โมงเกือบ7โมงเช้า ซึ่งไปเจอกับหน้าที่อุทยานฯบอกว่าก่อนเข้าไปเดินให้เราไปแจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ตรงร้านสวัสดิการไว้หน่อย แต่ปรากฎว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่มาประจำการ แต่เจ้าหน้าที่คนเดิมก็บอกว่าอาจจะยังเช้าอยู่ เราเลยขอแจ้งกับเจ้าหน้าที่ไว้ด้วยวาจาและเดินเข้าไปเที่ยวที่น้ำตกซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ระมัดระวังตัวเพราะยังเช้าอยู่ อาจจะเจอกับสัตว์ป่าได้ ได้ยินแบบนั้นก็แอบตื่นเต้นเหมือนกันไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไร

สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เราสามารถเดินไปกันเองได้คือ น้ำตกเจ็ดคดเหนือ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร แต่ถ้าจะเข้าไปลึกกว่านั้น เช่น น้ำตกเจ็ดคดใต้ ,น้ำตกเจ็ดคดใหญ่,น้ำตกหินดาด และน้ำตกคลองผักหนาม จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางเข้าไปเพื่อความปลอดภัย ตอนเช้าๆเหมือนว่าเราจะเป็นกลุ่มแรกๆที่มาเดิน เราค่อยๆเดินไปตามเส้นทางมุ่งหน้าไปทีน้ำตกเจ็ดคดเหนือ ซึ่งเส้นทางเดินป่าค่อยข้างแคบ เราเดินเข้าไปไม่นานก็ได้ยินเสียงไก่ป่าร้องก่อนจะเจอเข้ากับฝูงไก่ป่าประมาณ4-5ตัว เดินอยู่ข้างหน้า เราใช้ความเงียบในการถ่ายภาพและค่อยๆมองดูฝูงไก่เดินหายเข้าไปในป่าหมดแล้ว จึงเดินทางกันต่อเพื่อไม่ให้ฝูงไก่ป่าตกใจ ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่ๆเยอะมากและมีพันธุ์ไม้ ดอกไม้ เถาวัลย์หน้าตาแปลกๆแต่ที่เป็นไฮไลท์และเรามองหาก็คือ “เห็ดแชมเปญ สีส้มสีเหลืองสดใส ที่ขึ้นอยู่ตามขอนไม้ กิ่งไม้แห้ง” ส่วนที่เรียกว่าเห็ดแชมเปญ คงเพราะด้วยหน้าตาที่เหมือนแก้วแชมเปญนั่นเอง เราหยุดแชะภาพเห็ดแชมเปญที่ระหว่างทาง ไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังซู่ๆอยู่เบื้องหน้า เดินต่อไม่นานก็มาถึงน้ำตกเจ็ดคดเหนือ

ลักษณะน้ำตกเจ็ดคดเหนือไม่ใช่น้ำตกขนาดใหญ่มาก โดยน้ำจะไหลลงจากผาหินก่อนลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ด้านล่างสามารถเดินเล่นและลงเล่นน้ำได้เพราะไม่ลึกมากแต่ก็ต้องระวังหินที่ลื่นได้บริเวณรอบๆยังมีดอกไม้และโขดหินที่มีเฟิร์นสีเขียวขึ้นอยู่ ยิ่งตอนเช้าๆที่เราไปถึงแสงแดดส่องลงมากระทบกับโขดหินและน้ำตกพอดีทำให้ได้เสียงที่สวยกำลังพอเหมาะ

“ย้ำอีกครั้งว่าใครที่จะเดินไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดคด สามารถเดินไปได้เองโดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ เพราะเส้นทางเดินค่อยข้างง่าย แต่ถ้าใครอยากจะไปเดินให้ครบทุกน้ำตกแนะนำว่าต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง จะได้ปลอดภัยอย่าฝ่าฝืนเดินเข้าไปกันเองเพราะเส้นทางอาจจะเดินยากเสี่ยงต่อการหลงป่าและอาจจะเจอกับสัตว์ป่าที่เป็นอันตรายได้ “

หลังจากที่กลับจากน้ำตกแล้วเราก็กลับมาเก็บของห้องพักเพื่อเดินทางกลับ โดยเราได้แวะกินมื้อเช้าที่ร้านอาหารตรงทางขึ้นไปเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ชื่อร้าน”ครัวขอบชล”เพราะอยู่ติดกับอ่างน้ำเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าได้มาเปิดร้านอาหารและบริการให้กางเต็นท์ที่นี่มานานหลายปีแล้ว โดยมื้อเช้าเราสั่งเมนูง่ายๆอย่าง ปลากระพงราดพริก ผัดผักรวม ไข่เจียว ต้มยำทะเล เรียกว่าอิ่มสุดๆ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯโดยแวะขึ้นไปกินกาแฟที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และแวะซื้อนมและโยเกิร์ต ที่เดลิโฮม เป็นของฝากติดไม้ติดมื้อ 

นับว่าเป็นการเที่ยวที่คุ้มค่ามากๆสำหรับทริปวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบแนวธรรมชาติแต่มีเวลาไม่มากที่จะขับรถไกลๆขึ้นเหนือ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกสลัดได ที่นครนายกและศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี เพราะได้ใกล้ชิดธรรมชาติแถมอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯดังนั้นใครที่สนใจก็ปักหมุดและออกเดินทางกันได้เลย

โดย รองเท้าแก้ว