ไม่เข็ดหลาบ!! รวบขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ พบประวัติเคยต้องโทษคดีตัดไม้มาแล้ว

208

“กรมอุทยานฯประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดเคยต้องโทษคดีลักลอบตัดไม้มาแล้ว”

(29 สิงหาคม 2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายพิชัย วัชรพงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จ.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษฯชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 3 กองบังคับการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก พร้อมด้วยสารวัตรกำนัน ตลอดจนผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ประกอบด้วยผู้ต้องหาชาวไทย ซึ่งเป็นพ่อค้าไม้รายใหญ่คนหนึ่งในพื้นที่ ประกอบด้วย 1.นายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ที่ 2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 2. นายภิรมย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/3 หมู่ที่ 5 ต.หมูสี อ ปากช่อง จ.นครราชสีมา 3. นายมานพ (ขอสงวนนามสกุล) อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 10 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูปถากกลม จำนวน 15 ท่อน ปริมาตรรวม 0.487 ลูกบาศก์เมตร และอุปกรณ์การกระทำผิดประกอบด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เลื่อยโซ่ยนต์ และอุปกรณ์การกระทำผิดอื่นๆ อีกหลายรายการ

โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า มีกลุ่มนายทุุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักลอบติดต่อกับพ่อค้าไม้ประเทศเพื่อนบ้าน มีการลักลอบค้าไม้พะยูงข้ามชาติโดยทำเป็นกลุ่มขบวนการ มีการรวบรวมไม้ในท้องที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนำขายให้กับพ่อค้าไม้ชาวกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ โดยสายลับได้สืบข่าวทราบว่า นายซอฯชาวกัมพูชาซึ่งเคยต้องโทษจำคุกในคดีความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ ท้องที่จังหวัดนครราชสีมา โดยรู้จักกับนายภิรมย์ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งเป็นเถ้าแก่ผู้รวบรวมไม้ในท้องที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายซอฯต้องการซื้อไม้พะยูง มีการติดต่อประสานงานกับนายภิรมย์ฯ โดยมีนายมานพฯเป็นผู้ร่วมขบวนการ นายซอฯเป็นผู้จัดหารถยนต์และคนในการขนไม้พะยูงจากอ.ปากช่อง มาที่ป่าอ้อยในเขตอ.พนมดงรัก ท้องที่บ้านหนองจูบ หมู่ที่ 2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ผู้กระทำผิดได้ว่าจ้างนายมงคลฯ ในการเฝ้าไม้และคอยประสานงาน โดยตกลงซื้อขายในราคากิโลกรัมละ 250 บาท จำนวน 15 ท่อน น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม เป็นเงิน 125,000 บาท

โดยก่อนหน้านี้นายภิรมย์ฯ จะขายไม้ให้นายซอฯ (ชาวกัมพูชา) แต่เนื่องจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถเคลียร์เส้นทางไม้ลงได้ นายซอฯจึงแจ้งว่าไม่สามารถรับซื้อไม้พะยูงดังกล่าวได้แล้ว สายลับจึงโทรยืนยันนายมงคลฯว่าสนใจจะเข้าไปดูไม้ โดยตกลงจะซื้อขายไม้พะยูงดังกล่าว ในระหว่างตกลงซื้อขาย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด ดังนี้

  1. พรบ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ฐานร่วมกันแปรรูปไม้ มีไม้แปรรูปหวงห้าม(ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครอง ปริมาตรเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 70 ฐานร่วมกันซ่อนเร้น จำหน่าย หรือ ช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิด
  2. พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. พรบ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ฐานร่วมกันมี หรือ ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
  4. พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ฐานนำพาอาวุธปืนเข้าไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.พนมดงรัก จ. สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมวันนี้ #กรมอุทยาน