หน้าแรกการเมือง'ลดาวัลลิ์' ซัด อย่าโกหกในเวทีโลก 'ยูเอ็น' จับได้แล้ว-รัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชนจริง!

‘ลดาวัลลิ์’ ซัด อย่าโกหกในเวทีโลก ‘ยูเอ็น’ จับได้แล้ว-รัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชนจริง!

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงแรงงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกรณีที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยรายงานประจำปี แจงรายชื่อ 38 ประเทศว่าเป็นประเทศที่น่าละอาย โดยอ้างว่ามีการปฏิบัติไม่ดีต่อนักสิทธิมนุษยชนหรือผู้ให้ความร่วมมือกับกลุ่มสิทธิมนุษยชน และหนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทยที่เพิ่งถูกระบุชื่อด้วยในปีนี้ โดยระบุว่า “อย่าโกหกคำโตในเวทีโลก
ทราบข่าวกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนได้รายงานสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏในรายงานประจำปีของคณะมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จัดทำขึ้นโดยนาย Andrew Gilmore ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อใช้ประกอบในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นการจัดทำและนำเสนอรายงานตามกระบวนการของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ที่มีการจัดทำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามข้อมติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ที่ ๑๒/๒ โดยนาย Gilmore ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน จะเป็นผู้นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๑ ที่รายงานระบุว่าประเทศไทยเป็น 1 ใน 38 ประเทศที่มีการลงโทษนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่กล้าหาญเป็นสิ่งที่น่าละอายนั้น ในข้อ4ที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือเจตนาจะคุกคามข่มขู่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใดนั้น เข้าใจว่าเป็นการชี้แจงไปตามหน้าที่เท่านั้นเอง เนื่องจากว่าข้อมูลเชิงลึกที่ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติฯได้รับมานั้นไม่น่าจะเป็นข้อมูลฉาบฉวย เขาน่าจะมีทีมงานติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องพอสมควรจึงกล้าระบุในรายงานเช่นนั้น และการนำเสนอข้อมูลที่ชี้ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆเช่นนี้ ระดับองค์การสหประชาชาติน่าจะมีการตรวจสอบมาอย่างถี่ถ้วนและชัดเจนดีแล้ว และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอรายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ของผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๑ ที่เจนีวา และใช้โอกาสนี้ชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไทยเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้อยู่แล้ว แต่น่าเป็นห่วงในกรณีถ้าเขามีหลักฐานชัดเจนว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจริงแล้วเราปฏิเสธก็อาจจะถูกตำหนิได้ว่า “โกหก” และจะเป็นการ “โกหกคำโต” กลางเวทีสำคัญระดับโลก จะเป็นการซ้ำเติมภาพพจน์ของประเทศไทยในทางที่ไม่ดียิ่งขึ้นไปอีก”

อย่าโกหกคำโตในเวทีโลก ทราบข่าวกระทรวงการต่างประเทศ…

โพสต์โดย ลดาวัลลิ์ / Ladawan Wongsriwong เมื่อ วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2018


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img