คลัสเตอร์”เหล้าเถื่อน” ตายเพิ่มอีก 2 รวมดับแล้ว6ศพ !!

190

สถานการณ์คลัสเตอร์ยาดองเสียชีวิตเพิ่มรวม 6 ราย โคม่าอีก 7 ราย กลับบ้านแล้ว 9

วันนี้(28 ส.ค. 67) ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สรุปสถานการณ์ความคืบหน้ากรณีพบผู้ป่วยเป็นพิษเฉียบพลัน จากการดื่มสุราเถื่อนผสมเมทานอลหลายรายในพื้นที่เขตคลองสามวาและเขตมีนบุรี ล่าสุด มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 37 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 6 ราย

ขณะนี้มีผู้ป่วยที่กําลังรักษาตัวจํานวนทั้งสิ้น 22 ราย พบมีอาการรุนแรงที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และใส่ท่อช่วยหายใจ 7 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดง 8 ราย สีเหลือง 10 ราย และสีเขียว 4 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกไตรวม 23 ราย

โดยวันนี้ ทาง or.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยนอกจาก 18 จุดดังกล่าว แต่ยังคบว่ามีจุดอื่นที่ขายเหล้าเถื่อนอีก 5 จุด (ตลาดนิคมลาดกระบัง สุวินทวงศ์ ตลาดมารวย และ ย่าน รามอินทรา44) ต้องไล่ย้อนไปว่ารับเหล้าถื่อนมาจากไหน และต้องสอบสวนทางเจ๊ปูกับผู้ต้องหาอีก 2 คน ว่าได้มีการส่งไปที่ซุ้มไหนอีกหรือไม่ ส่วนอาการของผู้ป่วยที่มาจาก 5 จุดใหม่ มีอาการคล้ายกัน

ด้าน พญ.มินตรา ตั้งรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วย ผอ.ด้านการพัฒนาคุณภาพ ระบุเพิ่มเติมว่า ที่ รพ.นพรัตน์ฯ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 2 ราย ที่มีอาการหนัก โดยคนแรกมีอาการหนักตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา มีอาการเหนื่อยหอบรุนแรง จึงมีการใส่ท่อช่วยหายใจ และล้างไต อีกรายรับมาใหม่เมื่อคืนมีการฟอกไตเหมือนกัน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่ยังมีการรับประทานเหล้าเถื่อนอยู่ในปัจจุบันว่าให้เลิกก่อน เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้สารพิษต่าง ๆ ที่เจอ กระจายไปกี่ที่ในกรุงเทพฯ และถ้าหากมีอาการ อยากให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที หากรับการรักษาช้า ฤทธิ์ของสารพิษอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

สำหรับ 9 รายที่รักษาหาย เกิดจากผู้ป่วยเองมาโรงพยาบาลและตรวจเช็คอาการเร็ว และได้รับการรักษาเร็ว จึงสามารถรักษาได้ทัน

นพ.กิติพงษ์ พนมยงค์ หัวหน้ากลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ฯ ระบุเพิ่มเติมว่า จากการนำเลือดของผู้ป่วยส่วนใหญ่ไปตรวจ พบว่ามีสารทั้ง 3 ชนิด ไอโซโพพิล เป็นสารที่รับประทานไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อไต กับ เส้นประสาททำงานผิดปกติ , เอทานอล , เมทานอล ซึ่งอาการที่ออกฤทธิ์ส่วนใหญ่เป็น เมทานอล เป็นหลัก เพราะมีความรุนแรงที่สุด / ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่มาตรวจ ยังไม่สามารถระบุอาการชัดเจนได้ เนื่องจากอาการแตกต่างจากการมาแอลกอฮอล์ปกติ จึงต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาสารเมทนอล

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมวันนี้