ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวใหญ่หนีหมายนัดฯศาล หลังหลอกลงทุนแชร์ อ้างกำไรดีหลอกเหยื่อหลงเชื่อนับร้อยสูญเงินร่วม 23 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี, พ.ต.อ.ณัฐพงษ์
ปิตะบุตร, พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล, พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม , พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรก.รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.วินัย ธนะโชติ รอง ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ชยธร ถวิลเพชรสกุล สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล., พ.ต.ต.ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สว.กก.8 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.จรัญ ทองอินทร์ รอง สว.ทล 2 กก.8 บก.ทล, ด.ต.เปรมวิศุทธ์
พัฒนอดติพงศ์, จ.ส.ต.โสนิล จันทร์พลงาม และ ส.ต.อ.ศรัณย์ อู่ทรัพย์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.
ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ณิชาภัทร ฯ อายุ 43 ปี เป็นจำเลยตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 488/2566 ลง วันที่ 17 ก.ค.2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
สถานที่จับกุม หน้าบ้านแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 7 ตำบลสีมุม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากในระหว่างปี 2559-2560 น.ส.ณิชาภัทร ฯ จำเลยรายนี้ ได้ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายลงทุนเล่นแชร์กินดอกทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ “รวมพลคนแบ่งปัน By ณิชาภัทร” โดยอ้างว่า ได้ผลกำไรดี ดอกเบี้ยร้อยละ 15 บาทต่อเดือน จ่ายดอกเบี้ยทุก 7 วัน 10 วัน และ 30 วัน จนมีกลุ่มผู้เสียหายทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในประเทศเกาหลี นำเงินมาลงทุนหลายร้อยราย รวมเป็นเงินร่วม 23 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดรับเงินปันผล ผู้ต้องหากลับขาดการติดต่อ จึงรวมตัวแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. และถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ณิชาภัทรฯ(จำเลย) แต่พอถึงวันนัดพิจารณาคดีทางด้าน น.ส.ณิชาภัทรฯ(จำเลย) ไม่ได้มาตามนัด จึงเป็นเหตุให้ศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.ณิชาภัทรฯ(จำเลย) เพื่อมาฟังคำพิพากษา โดยจากการสืบสวนพบว่า น.ส.ณิชาภัทรฯ(จำเลย) ได้หลบหนีมาอาศัยในพื้นที่ ตำบลสี่มุม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยเปลี่ยนตัวตนใหม่ทั้งหมดเพื่อตบตาชาวบ้านในพื้นที่ จนกระทั่งชุดสืบสวนตามมาจนพบตัวและทำการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
