“อุ๊งอิ๊ง” เตรียมสร้างสถิติ นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย เป็นคู่พ่อลูกคู่แรกที่เป็นนายกฯ หลังพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมหนุนให้เป็นผู้นำรัฐบาล เจ้าตัวรับเป็นคนขอทำงานต่อจาก “เศรษฐา” เอง
ที่อาคารชินวัตร 3 เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนัดประชุมเพื่อพิจารณาลงมติเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต่อสภาเพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตามที่ ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่เรียกร้อง โดยมี นางสาวแพทองธาร หัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรค นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค รวมถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ โดยเจ้าตัวตอบรับมติดังกล่าว
จากนั้นเวลา 17.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ น.ส.แพทองธาร นายสรวงศ์ นายภูมิธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกันแถลงข่าว
โดยนายสรวงศ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย สิ้นสุดลงวานนี้ (14 สิงหาคม 2567) พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีจุดยืนเดียวกัน โดย กก.บห.เพื่อไทยมีมติเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร เป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอชื่อ และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ให้ความเห็นชอบตามมติดังกล่าว
โดยนางสาวแพทองธาร ได้กล่าวขอบคุณ กก.บห. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความไว้วางใจ เสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลสำหรับการสนับสนุน และยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และขอให้รอดูผลการลงมติในวันพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการ
ว่าที่นายกฯ คนที่ 31 กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทุกคนชื่นชมในการทำงานของนายเศรษฐ และเสียดายที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดเอาไว้ นายเศรษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่จนเคารพรักมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน แม้จะเสียดายแต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตัังรัฐบาลมีความพร้อม ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ว่าจะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ การรวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น มีความพร้อมเพรียงกัน ในการผลักดันประเทศให้ไปต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการปรึกษาครอบครัวหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ปรึกษาครอบครัวทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อมีหน้าที่ต้องทำให้ประเทศชาติไปต่อ ก็ยินดีและตั้งใจที่จะทำ ครอบครัวตนพูดคุยกันและเคารพการตัดสินใจเสมอ ขณะเดียวกันก็ได้ปรึกษา ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่เป็นบิดา เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ และยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อนด้วย ส่วนจะปรึกษากับ ดร.ทักษิณ ใกล้ชิดมากขึ้นหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธารระบุว่า “ไม่ค่ะ เท่าเดิม เพราะใกล้มากอยู่แล้ว”
ต่อข้อถามว่าได้มีการพูดคุยหารือกับนายเศรษฐา หรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นายเศรษฐา เป็นผู้สนับสนุนให้ตนได้รับการเสนอชื่อ ส่วนตัวมีความเคารพนายเศรษฐาอยู่แล้ว ได้พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งท่านให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาก ทั้งนี้นายเศรษฐาเป็นคนที่มีความตั้งใจอย่างมากที่จะผลักดันนโยบายให้สำเร็จ ทุ่มเทเต็มร้อย ตนหวังว่าจะเข้ามาผลักดันนโยบายต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทย ของพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากมติของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคที่เสนอชื่อนางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว นางสาวแพทองธาร เป็นผู้เสนอทำงานต่อจากนายเศรษฐาใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่า “ใช่ค่ะ”
ทั้งนี้หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้นางสาวแพทองธารเป็นนายกฯ ในวันพรุ่งนี้จะทำให้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้การเมืองไทย ถึง 3 ประเด็น ตั้งแต่ เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย โดยผู้ที่เคยเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดของไทยคือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ที่เป็นนายกฯ เมื่ออายุ 40 ปี 3 เดือน เป็นพ่อลูกคู่แรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้มีคู่พี่น้องคือ มรว.เสนีย์ และ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กับนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นตระกูลที่มีนายกฯ มากที่สุดถึง 3 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีตระกูลปราโมช และชินวัตร เองที่มีสมาชิกเป็นประมุขฝ่ายบริหาร ตระกูลละ 2 คน
