ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 8 ส.ค. นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทวงอ่างเก็บห้วยสะดวงใหญ่มาช่วยน้ำปัญหาน้ำท่วมหล่มสักซ้ำซาก โดย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน โดยนายจักรัตน์ กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแม่น้ำป่าสักที่มีความยาวประมาณ 280 กิโลเมตร เป็นเส้นเลือดใหญ่ ผ่านจากเหนือสุดลงมาถึงใต้สุดของจังหวัด ซึ่งพื้นที่ทางต้นน้ำในอำเภอหล่มสัก เกิดอุทกภัยทุกปีเพราะไม่มีอ่างเก็บน้ำที่ต้นน้ำเลย ซึ่งจังหวัด และกรมชลประทานมีความเห็นตรงกันว่า ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่
“ผมอยากทราบความก้าวหน้าของโครงการอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ เพราะในปี 2562 ได้รับเงินศึกษาสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่จนถึงปี 2567 ก็ยังไม่ผ่านประเมินสิ่งแวดล้อม จึงอยากถามว่า ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร และปัญหาความล่าช้าเกิดจากอะไร รวมถึงจะตั้งงบประมาณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ได้ ในปีไหน
นอกจากนี้ นายจักรัตน์ ยังถามถึงโครงการแนวทางผันน้ำเลี่ยงเมืองหล่มสัก ที่จะช่วยไม่ให้เกิดอุทกภัยในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหล่มสักก็คือการทำบายพาสน้ำ เพื่อลดมวลน้ำที่จะไหลเข้าเมืองให้ไหลอ้อมเมืองออกไปลงที่แม่น้ำป่าสัก ในจุดที่ไกลเมืองออก ซึ่งทราบว่าทางกรมชลประทานได้ของบศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่ก็ยังได้รับเงินงบประมาณ จึงอยากทราบว่า เมื่อไหร่จะได้เงินงบประมาณในการศึกษาแผนงานนี้
ด้าน นายอรรถกร ตอบกระทู้ว่า ทางกรมชลประทานพยายามแก้ไขปัญหาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมในเขตอำเภอหล่มสักยังมีอีกหลายจุด ที่เรื้อรังมานาน และทางกรมชลประทานก็ทราบดี และเป็นเป้าหมายที่จะต้องดำเนินกา ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ที่อำเภอหล่มสัก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กรมชลให้ความสำคัญ หากสร้างเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำได้ประมาณ 13.75,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำนี้จะสร้างทางเหนือของอำเภอหล่มสัก อยู่ตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น ขณะนี้โครงการผ่านการตรวจสอบ EIA และจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เชื่อว่าภายในเดือนนี้รายงานจะผ่าน จากนั้นจะเร่งทำการสำรวจเพื่อวางแผนในการก่อสร้าต่อไป
”คาดว่าเราจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ใน 2570 โดยทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่า จะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 975 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 4 ปีแล้วเสร็จในปี 73 ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีพื้นที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรจะได้รับประโยชน์กับการที่เราจะเก็บกักน้ำเพิ่มได้ประมาณ 9700 ไร่“นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า วานนี้ ร.อ.ธรรมนัส, ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมด้วยตน ได้เดินทางไปร่วมประชุมที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซึ่งมีการพูดถึงประเด็นที่กระทรวงเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมารวมกัน โดยกระทรวงฯ ดำเนินการไปแล้ว 4900 โครงการจาก 5000 กว่าโครงการ สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้ประชาชนในทั่วภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
สำหรับปัญหาน้ำท่วมในอำเภอหล่มสักกรมชลวางแนวทางในการแก้ 2 รูปแบบ คือการก่อสร้างอ่างเพิ่มขึ้นซึ่งหลายโครงการ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น อ่างเก็บน้ำห้วยผักกูด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ส่วนรูปแบบที่ 2 กำลังพิจารณาขยายความกว้างของคลองส่งน้ำสายใหม่ให้เป็ 40 เมตร ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะแบ่งเบาภาระการผันน้ำที่แม่น้ำป่าสักได้ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โครงการนี้ใช้เวลารวดเร็วกว่า
“ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่หนึ่งในการสร้างอ่างเก็บน้ำหลาย ๆ อ่างเก็บน้ำเพิ่ม บริเวณเหนืออำเภอหล่มสัก หรือว่าแนวทางที่ 2 ในการที่จะขยายคลอง เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระการผันน้ำ ผมเชื่อว่า ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาไม่ว่าโครงการไหนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เรายินดีที่จะดำเนินการก่อน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำความเข้าใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญเราจะออกแบบสำรวจให้เสร็จรวดเร็วที่สุด“
