หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมนายก ฯ บัญชาการ ยกระดับปราบยาเสพติด

นายก ฯ บัญชาการ ยกระดับปราบยาเสพติด

นายก ฯ บัญชาการ ยกระดับปราบยาเสพติด
พร้อมกำหนด D-DAY / ใช้รูปแบบ “ธวัชบุรี Model”

มอบ ป.ป.ส. บูรณาการเร่งแก้ไขปัญหา
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ครั้งที่ 8/2567 โดยมีพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุม นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ที่ปรึกษา พลเอก สุนัย ประภูชะเนย์ ที่ปรึกษา พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ ที่ปรึกษา และนายนิยม เติมศรีสุข ที่ปรึกษา พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ อาทิ พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าร่วมการประชุมพร้อมหน่วยงานภาคี ผ่านระบบการประชุมออนไลน์เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 25 จังหวัดให้บรรลุเป้าหมาย ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส.

ในช่วงต้นของการประชุม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงานเพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ 1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ส. และจังหวัด กำหนดวันในการเปิดปฏิบัติการปราบปราม ปิดล้อม ตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในพื้นที่พร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งขยายผลด้วยการใช้มาตรการทางกฎหมายและทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรยาเสพติดให้หมดไป 2. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำรูปแบบ “ธวัชบุรีโมเดล” มาทำการ X-Ray ชุมชน โดยให้จังหวัดจัดทำระบบในการติดตามดูแล ช่วยเหลือ และเฝ้าระวังภายหลังจากที่ผู้ผ่านการบำบัดรักษากลับสู่ชุมชน 3. กระทรวงมหาดไทย กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการบําบัดรักษา สามารถดํารงชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไม่กลับมากระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำ 4. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ส. จัดระเบียบสังคมในพื้นที่สถานบันเทิง สถานบริการ สถานศึกษาและบริเวณโดยรอบ อย่างจริงจังเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติด 5. กรณีที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานให้ สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บหรือทายาทของผู้เสียชีวิตเพื่อเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด 6. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดจัดการประชุมเพื่อจัดสรรเงินค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดโดยเร็วเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติด้านยาเสพติดต่อไป นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ทุกคนจะส่งผลให้ปัญหายาเสพติดของประเทศไทยลดความรุนแรงลงและหมดไปในที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่สังคม พี่น้องประชาชน และเยาวชนคนไทยทุกคน โดยมอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ส. สรุปผลการปฏิบัติงานและรายงานให้ทราบเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ 3 เดือนแล้ว พร้อมทั้งศึกษาทบทวนการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อนำมาใช้ประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติงานในปีงบประมาณ 2568 ต่อไป และหลังจากสิ้นสุดแผนเร่งรัด 3 เดือนนี้ จะมีการขยายผลของการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดไปสู่ทุกจังหวัดของประเทศไทย
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวสรุปผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่อง โดยจังหวัดที่มีผลงานโดดเด่นที่น่าได้รับการชมเชย ด้านการปราบปราม ได้แก่ นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟู ได้แก่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ด้านการป้องกัน ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ในภาพรวมผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ ด้านการปราบปราม มีผลการดำเนินงานบรรลุผลในภาพรวม การดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 12,722 คดี การดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือได้ 431 คดี และการตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้นได้ 829.54 ล้านบาท ด้านการบำบัดรักษา การนําผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบําบัด ที่มีการดำเนินการในรูปแบบ CBTx (1 มิถุนายน – 28 กรกฎาคม 2567) มากกว่าจำนวน 6,764 คน โดยเน้นที่การบำบัดเพื่อให้ผู้ป่วยไม่หวนกลับไปเสพยาอีก โครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลมีผู้เข้าร่วมบำบัดของ สตช. สามารถนำคนเข้าบำบัดได้จำนวน 12,241 คน (คิดเป็น 19.25คน/สถานี) และมีกระบวนการสำคัญในการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดผู้ป่วยเหล่านี้หลังจากได้รับการรักษาจากการเป็นคนไข้ติดยาเสพติดแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลคนไข้จิตเวชที่มีแนวโน้มก่อความรุนแรงโดยให้ยาจิตเวชควบคุมอาการ และระมัดระวังในการขาดยาหรือรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ และด้านการป้องกัน ได้ดำเนินการจัดระเบียบสังคมในสถานบันเทิง สถานบริการได้ทั้งหมดร้อยละ 100 สถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิงมากกว่าร้อยละ 99.67 รวมทั้งรอบสถานศึกษามากกว่าร้อยละ 99.21 โดยมีการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนมากกว่าร้อยละ 99.35

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ทิ้งท้ายถึงกรณีข่าวสารผู้ใช้ยาเสพติดก่อความเดือดร้อนแก่สังคม เช่น ทำร้ายผู้อื่น ทำลายทรัพย์สิน ทำให้สังคมมองว่าปัญหายาเสพติดยังคงรุนแรงและภาครัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ปัญหาเหล่านี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมากทั้งในการค้นหาผู้เสพที่มีอาการทางจิต การบำบัดรักษา ตลอดจนการหาที่รองรับกรณีที่ไม่พร้อมกลับไปอยู่ในชุมชน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้เพื่อลดความเดือดร้อนให้แก่สังคม และได้กำชับถึงกรณีที่ปรากฎข่าวผลกระทบจากผู้ใช้ ยาเสพติดตามสื่อต่าง ๆ ให้ทุกฝ่ายช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากเกิดจากการใช้ยาเสพติดจริง ขอให้ช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหาผู้เสพที่ก่อเหตุดังกล่าว ทั้งการบำบัดรักษา ตลอดจนดูแลด้านสังคม เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเป็นคนปกติ อยู่ในสังคมได้ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและชุมชน หากผู้ก่อเหตุไม่ได้มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเสพติดขอให้แก้ไขข่าวสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่สังคม เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#เศรษฐา ทวีสิน#ข่าวอาชญากรรมวันนี้
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img