ชี้การเมืองไทยในอนาคต – ภท.แกนหลักเพื่อไทยตัวเสริม-คาด”แม้ว”ถอยห่างส่ง ”เน -หนู“(1)

1307

       จั๋วหัวในลักษณะทายอนาคต”จอมมารน้อย”ขอบอกตามตรงว่าไม่ได้สวมบทโหรหรือหมอดู เพราะไม่ได้มีความรู้ในศาสตร์นี้แม้แต่น้อย

       แต่ที่นำเสนอเกี่ยวกับอนาคตของการเมืองไทย ได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อทุกประเภท ผสมผสานกับข้อมูลที่เก็บเกี่ยวไว้เมื่อครั้งเดินอยู่ในสนามข่าวและข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ยังคงพบปะแลกเปลี่ยนกันมิได้ขาด ทั้งประเด็นการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ที่พวกเราทุกคนต่างเผชิญกันแบบลุ้นเป็นลุ้นตายกันก็ว่าได้

     ดังนั้นหากประเมินสถานการณ์ตามโครงสร้างอำนาจทางการเมืองของไทย นับแต่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)ที่ผ่านมาจะเห็นบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไปแบบกลุ่มอำนาจอนุรักษ์นิยมที่กุมอำนาจอยู่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะชัยชนะของพรรคก้าวไกล ที่คนหนุ่มสาว วัยกลางคนและวัยเกิน 60ปี บางกลุ่มเทเลือกให้ชนะ เพื่อหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตามที่ทางพรรคนำเสนอนโยบายไว้ เสมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงผู้กุมอำนาจทั้งหลายว่าต้องปรับกระบวนยุทธ์เพื่อรักษาอำนาจให้ยืนยาวต่อไป

      แต่ในห้วงเวลาที่พรรคก้าวไกลหาเสียงมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ได้เกิดปรากฏการณ์พานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับบ้านในช่วงปลายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด  เพราะบ่อยครั้งที่ผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินทางกลับประเทศที่นายทักษิณบอกว่าจะกลับแบบเท่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงอาการหงุดหงิดมาพร้อมกับถ้อยสำเนียงเสียดสีว่าเป็นนักโทษหนีคดี แต่มาปรับอาการช่วงท้ายก่อนที่จะหมดวาระด้วยการไม่ตอบคำถามแต่จะแสดงอากัปกริยายิ้มรับแทน จังหวะที่กระแสนายทักษิณกลับประเทศมาแรง แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างคาดหวังว่าจะเป็นตัวช่วยเรียกคะแนนให้กับพรรคในสนามเลือกตั้งชนะแบบแลนด์สไลด์ แต่กลายเป็นมุกแป้ก

        ขณะที่นักวิชาการหลายสำนักต่างวิเคราะห์กันว่านายทักษิณกลับมาได้ เพราะกลุ่มอนุรักษ์ต้องการเปลี่ยนตัวขุนใหม่ ด้วยการคาดหวังว่านายทักษิณ จะมาช่วยกู้เศรษฐกิจของประเทศให้ประชาชนทั่วประเทศต่างสัมผัสได้ว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น เงินในกระเป๋าที่แฟบจะกลับมาฟูเหมือนครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการปรับเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองให้หันกลับมาชื่นชอบพรรคเพื่อไทย แทนพรรคก้าวไกล ที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมค่อนข้างให้ความรังเกียจ

      จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่าในช่วงที่พรรคก้าวไกลเดินเกมจัดตั้งรัฐบาลเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งที่มีการจัดวางให้เล่น แต่รัฐบาลตัวจริงเสียงจริงได้จัดวางให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไว้เรียบร้อยแล้ว

      ห้วงเวลานั้น”จอมมารน้อย”ได้วิเคราะห์จากข้อมูลที่แหล่งข่าวบอกเล่า บวกกับสถานการณ์ความเป็นจริงในสังคมไทยด้วยการระบุว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสได้ไปต่อ และนายเศรษฐา ทวีสิน จะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามคาดหมายพรรคก้าวไกลผันตัวเองเป็นฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา(สว.)แต่งตั้งโหวตให้นายเศรษฐา ผ่านฉลุย ท่ามกลางเสียงกระแนะกระแหนว่าเพื่อไทยตระบัดสัตย์

    ในจังหวะที่ฟอร์มคณะรัฐมนตรีมีข่าวสะพัดว่านายทักษิณ ฝ่ายตรงข้ามตั้งฉายาให้เป็นนักโทษเทวดา เพราะหลังศาลพิพากษาจำคุก มิได้ก้าวเท้าเข้าคุกแม้แต่ก้าวเดียว เพราะป่วยกระหันส่งเข้าโรงพยาบาลตำรวจพักห้องพิเศษชั้น 14 มีส่วนในการวางตัวรัฐมนตรีด้วย เพราะปรากฏชื่อนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความประจำตระกูลชินวัตร ติดโผด้วย แต่พ่ายเสียงวิจารณ์จึงถอดใจเสียก่อน

      เมื่อรัฐบาลนายเศรษฐา เข้าบริหารประเทศอย่างเต็มตัว ชาวบ้านทั่วไปรวมถึงกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนต่างคาดหวังจะเป็นการแก้ไขปัญหาทั้งเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุดหน้าเป็นรูปธรรม ส่วนบรรดารัฐมนตรีต่างทราบกันดีว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีช่วงฮันนีมูนอย่างแน่นอน เพราะนอกจากปัญหาปากท้องแล้ว ยังมีปมการเมืองที่สังคมกล่าวหาว่าสองมาตรฐาน นั่นคือปมนายทักษิณ ไม่ต้องนอนคุกกับคดีผิดมาตรา 112 ที่ได้ประกันตัว ซึ่งประเด็นคดีที่นายทักษิณได้ฉายานักโทษเทวดา ได้ฉุดรั้งภาพพจน์รัฐบาลในเชิงลบพอสมควร ทำให้เสียแนวร่วมกลุ่มอนุรักษ์นิยมบางกลุ่มหันไปเห็นดีเห็นงามกับก้าวไกล และบางกลุ่มเคลื่อนไหวถล่มรัฐบาลแบบอิสระ

      ขณะที่รัฐนาวาของนายเศรษฐา มิได้โชว์ศักยภาพในการบริหารประเทศให้โดดเด่นแต่อย่างใด ปัญหาทุกปัญหาล้วนแต่ย่ำอยู่กับที่  สร้างความระอาให้กับชาวบ้านที่อยู่กันแบบกล้ำกลืนรายได้ชักหน้าไปถึงหลัง และความระอานี้ได้ลามไปถึงกลุ่มต่างๆที่ชักใยอยู่เบื้องหลังแล้ว

   บทสรุปของรัฐบาลเศรษฐา จะเป็นอย่างไร ติดตามตอนหน้า !!!