มหากาลไภรวะหรือพระพิราพ บรมครูผู้ทรงฤทธานุภาพ

672

มหากาลไภรวะหรือพระพิราพ บรมครูผู้ทรงฤทธานุภาพ ภาคดุร้ายแต่ใจดีขององค์ศิวะมหาเทพ อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

( รูปพระพิราพ )

ในบรรดา19ปางแห่งการอวตารขององค์มหาศิวะเจ้านั้นมีอยู่ปางหนึ่งที่ถือว่าเป็นปางที่โหดและทรงอิทธิฤทธิ์อย่างมากนั่นคือ ปางมหากาลไภรวะ ที่คนไทยเรารู้จักในนาม พระพิราพ

ปางมหากาลไภรวะ จัดเป็นภาคดุร้ายสายโหดปางหนึ่งของพระศิวะ การปรากฏของอวตารนี้นั้นนัยว่าเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นการขจัดความต่ำช้าเลวทราม เป็นตัวแทนแห่งการทำลายล้างและความตาย ในคัมภีร์ศิวะมหาปุราณะ เล่าว่า ปางมหากาลไภรวะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างมหาเทพตรีมูรติ เมื่อองค์นารายณ์มหาเทพเกิดนึกอะไรไม่ทราบถามว่า ใครคือมหาเทพผู้เป็นใหญ่แห่งจักรวาล องค์พรหมมหาเทพได้ยินเข้าก็บอกว่าตูข้านี่แหละใหญ่สุดเพราะตนเองเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง แถมเศียรก็มีห้าเศียร จากนั้นก็เริ่มเข้าไปป่วนงานของพระศิวะเพราะเห็นว่าตูข้าสร้างไยไฉนเจ้าจึงคอยทำลาย เพราะตามหน้าที่ องค์พรหม คือผู้สร้าง องค์นารายณ์รักษา องค์ศิวะคอยทำลายเพื่อการเกิดใหม่ แรกๆองค์ศิวะก็คิดซะว่าเพื่อนกันแหย่แค่นิดๆหน่อยศิวะทนได้ แต่องค์พรหมหนักข้อขึ้นจนองค์ศิวะทนไม่ไหว เลยถอดเล็บออกไปตัดเศียรองค์พรหมขาดไปหนึ่งเศียร จากห้าเศียรเหลือแค่สี่กลายเป็นพรหมสี่หน้าที่เรารู้จักทุกวันนี้ และเล็บที่องค์ศิวะถอดออกมานั้นกลายเป็นร่างมหากาลไภรวะ ถือกะโหลกเศียรที่ห้าองค์พรหมไว้ในพระหัตถ์ พอโดนเข้าแบบนี้ องค์พรหมก็หน้าเสียเห็นว่าเพื่อนเอาจริงวุ้ยและคิดได้ว่าตัวเองเริ่มก่อนเลยยอมอ่อนลง กลายเป็นผู้รู้แจ้งแห่งจักรวาลสืบมา

นอกจากจะโหดแบบไม่เกรงใจเพื่อนแล้วในอินเดียถือว่าพระพิราพ หรือพระไภรวะนี้มีความเกี่ยวข้องกับวงการนาฏศิลป์ เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดท่ารำที่เรียกว่า “วิจิตรตาณฑวะ” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 108 ท่ารำของพระศิวะ ดังนั้นจึงถือว่าท่านเป็น “นาฏราช” ที่หมู่ชาวนาฏศิลป์อินเดียให้ความเคารพเกรงกลัว เพราะถือเป็นเทพที่บันดาลความเป็นความตายได้ ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็เป็นผู้ให้ชีวิตและปัดเป่าโรคภัย ด้วยเหตุนี้เหล่าบรรดาเกจิอาจารย์หลายท่านจึงนิยมจัดสร้างวัตถุมงคลรูปแบบพระไภรวะหรือพระพิราพที่เราเรียกกัน ให้หมู่ชาวสายมูอย่างพวกเราได้เช่าบูชาเพื่อจะได้ประจักษ์ในฤทธานุภาพของหนึ่งในอวตารขององค์ศิวะมหาเทพ

( รูปพระอาจารย์อึ้งหรืออึ่ง วัดเชิงหวาย กทม. )

ในหมู่เกจิคณาจารย์ที่สร้างวัตถุมงคลรูปแบบพระพิราพยุคปัจุบันนั้นมีอยู่ชื่อหนึ่งที่หลายท่านในวงการผู้นิยมวัตถุมงคลให้การยอมรับ คือ พระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรือ พระอาจารย์ อึ้ง แห่งวัดเชิงหวาย กรุงเทพฯ ท่านมีนามเดิมว่า สุเทพ ศรีเอี่ยม (อึ้ง) เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2504 ตึกแดง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสมพงษ์ และนางไสว ศรีเอี่ยม

พออายุย่างเข้า 14 ปี ได้บรรพชาที่ วัดคลองโคน จ.สมุทรสงคราม และเมื่ออายุครบ 20 ปี ตามเกณฑ์คัดเลือกทหาร พระอาจารย์อึ่งได้ลาสิกขาไปเป็นทหารกองประจำการ พออายุได้ 25 ปี ก็ได้กลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเชิงหวาย โดยมี พระศีลาจารพิพัฒน์ (หลวงพ่อผล) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพา วัดบางโพ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สาคร วัดเชิงหวาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ตลอดกาลพรรษาที่พระอาจารย์อึ้งบวช ท่านได้รับใช้หลวงปู่ผล ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและสรรพวิชาต่างๆจากหลวงปู่ผล กระทั่งหลวงปู่ผลมรณภาพลง เมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยสังขารของหลวงปู่ผล ไม่เน่าไม่เปื่อย เฉกเช่นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในอดีตอีกหลายรูป

วัตถุมงคลต่างๆของ “พระอาจารย์อึ้ง” ในยุคแรกๆ จะมีผงวิเศษของหลวงปู่ผล ที่มอบไว้ให้เป็นส่วนผสม เช่น หน้าบรมครูพ่อแก่ฤๅษี และพระพิราพ ฝังตะกรุดแกะสลักลงยันต์ จารด้วยหมึกเป็นแบบทำมือหรือแฮนเมดล้วนๆ ปลุกเสกเอง แจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ นำไปใช้ได้ผล จนเป็นที่ร่ำลือในเรื่องพุทธคุณยิ่งนัก

(รูปมหากาลไภรวะพระพิราพ อาจารย์อึ้ง วัดเชิงหวาย กทม. )

วัตถุมงคลของ พระอาจารย์อึ้ง มีหลากหลายรุ่นแต่ทุกรุ่น ท่านพิถีพิถันในการสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เป็นที่นิยมของนักสะสมนิยมเครื่องรางของขลังและเหล่าลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก อย่างเช่น หน้าพระพิราพ พระพิราพเต็มองค์ โดโซะหรือฤๅษีเดินดง และเครื่องรางของขลังอื่นๆอีกหลากหลาย แต่ที่นิยมมากสุดก็เห็นจะเป็นวัตถุมงคลรูปแบบพระพิราพและวัตถุมงคลรูปแบบพ่อแก่หรือฤาษี ที่มีคนบูชาไปใช้แล้วได้ผลเป็นอย่างยิ่ง อันว่าอานุภาพของวัตถุมงคลรูปแบบพระพิราพนั้น หากผู้ใดมีไว้บูชาแม้ประสบเคราะห์หามยามร้าย พระองค์จะคุ้มครองให้ปลอดภัย ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แคล้วคลาดอย่างน่าอัศจรรย์ บ้านใดมีคนป่วยเรื้อรังมานานเกรงว่าจะรักษาไม่หาย ก็ให้ระลึกถึงคุณพระบรมครูพระพิราพ จัดเทียนสักการะตั้งจิตอธิษฐานถึงคุณแห่งพระรัตนตรัย และ คุณแห่งบรมครูอสุรเทพ มหากาลไภรวะพระพิราพ อำนาจจากแรงครูจะช่วยปัดเป่าโรคร้ายเสนียดจัญไร เคราะห์ร้ายทั้งหลายพินาศลง หากอยากเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือจะประสงค์ให้เงินไม่ขาดมือ อยากมีโชคลาภ ลาภลอย ให้จุดธูปเทียนบูชาองค์พระก่อนแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอต่อองค์มหากาลไภรวะพระพิราพ ให้พระองค์ได้โปรดประทานพรสมปารถนาตามที่ขอ ก็จักสมหวังครับ


คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนหรือตำนานอะไรครับ

เขียนโดย ต้น คนชอบพระ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ

ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ
สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น