หมวดเจี๊ยบ หรือ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อประเด็นของการที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะแก้หลักเกณฑ์ให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญได้เกิน 3,000 บาท นั้น หมวดเจีี๊ยบกล่าวว่า ถ้า ป.ป.ช. แก้หลักเกณฑ์ ให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญได้เกิน 3,000 บาท นอกจากจะสวนทางกับกระแสรณรงค์ไม่รับของขวัญในส่วนราชการ ยังอาจจะเป็นผลกระทบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะซื้อลูกสุนัขเป็นของขวัญให้รัฐมนตรีในราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดด้วย โดยการเปลี่ยนหลักเกณฑ์มูลค่าการให้ของขวัญเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงนี้ ระวังจะถูกโยงว่าต้องการแก้ต่างให้ผู้มีอำนาจได้ จากรณีลูกสุนัขของนายกฯ การตรวจสอบนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย ที่สังคมกำลังจับตามองอยู่
หมวดเจี๊ยบ กล่าวต่อว่า ปปช. อย่าไปเชื่อแนวคิดที่ว่าการกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐรับของขวัญมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท นั้น เป็นตัวเลขที่ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพในยุคปัจจุบัน เพราะเหตุผลแบบนี้มันผิดประเด็นและไม่สอดคล้องกับการปราบโกง โดยอันที่จริง ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐนั้นก้าวหน้าไปถึงขั้นรณรงค์ No Gift Policy โดยประกาศนโยบายไม่รับของขวัญปีใหม่จากผู้ใต้บังคับบัญชา หรือนักธุรกิจ แล้วโดยเรื่องนี้ได้รับเสียงเชียร์จากสังคม และภาคเอกชนก็เริ่มให้ความร่วมมือ
หมวดเจี๊ยบให้ความเห็นว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว แทนที่จะนำร่องหรือผลักดันนโยบายไม่รับของขวัญให้เป็นวาระแห่งชาติ กลับประกาศต่อหน้านักข่าวว่าจะซื้อลูกสุนัขเป็นของขวัญให้เพื่อนรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ มูลค่าของขวัญนั้นสูงเกินกว่าที่ กฏหมาย อนุญาตให้รัฐมนตรีสามารถรับได้ ถึงจะเป็น นายกฯ ก็ควรศึกษากฎหมายบ้างว่าอะไรที่ตัวเองทำได้หรือทำไม่ได้ ไม่ควรกระทำอันใดที่เเสดงให้เห็นถึงการมีอภิสิทธิ์แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย โดยหมวดเจีี๊ยบยกตัวอย่างว่าการไปยืนไขว้แขวนให้นักข่าวถ่ายรูปในงานปราบโกงมันเป็นแค่เรื่องฉาบฉวยแต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา