รรท.ผบ.ตร. เปิดโครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ และการประเมินสถานการณ์ในหน้างานป้องกันปราบปรามของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พัฒนาทักษะตำรวจ 88 สน.
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจและการประเมินสถานการณ์ในหน้างานป้องกันปราบปรามของกองบัญชาการตำรวจนครบาล” โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ต. ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. รวมทั้ง ผู้แทนระดับ รอง ผบก. บก.น.1-9 รอง ผกก.ป. ทั้ง 88 สน. และผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 1 จาก บก.น. 2 จำนวน 55 นาย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้ รรท.ผบ.ตร.ได้ร่วมรับชมการแสดงสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย
กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น.มีภารกิจ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามถือเป็นเจ้าหน้าที่ด่านแรก ที่ต้องเข้าเผชิญเหตุ (First responder) ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และได้รับการพัฒนา ฝึกทบทวนยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดทักษะ และมีความพร้อมในยุทธวิธีสามารถแก้ไขเหตุเป็นมาตรฐานเดียวกัน หรือ ระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP: Standard Operation Procedure)โดยสอดคล้องกับหลักกฎหมาย และสามารถประเมินสถานการณ์ที่เข้าเผชิญเหตุได้อย่างเป็นระบบเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนและสังคมได้
จึงได้มีการจัดให้มีโครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ และการประเมินสถานการณ์ในหน้างาน ป้องกันปราบปรามของ บช.น. ขึ้น โดยให้ บก.น. 1-9 พิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจในสังกัด จำนวน 88 สถานี สถานีละ 5 นาย รวมทั้งสิ้น 440 นาย แบ่งการฝึกทบทวนออกเป็น 9 รุ่น มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถตอบโต้ปัญหาจากสถานการณ์ต่าง ๆ ภายใต้ความกดดันสูง อีกทั้งเพื่อให้ผู้สำเร็จการฝึกทบทวน สามารถกลับไปเป็นครูต้นแบบด้านยุทธวิธี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการมาเป็นประธานในโครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจและการประเมินสถานการณ์ในหน้างานป้องกันปราบปรามของกองบัญชาการตำรวจนครบาลครั้งนี้ ตนมีความห่วงใยกับเจ้าหน้าที่สายตรวจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตนเองที่มีบทบาทหน้าที่ในด้านงานป้องกันและปราบปราม ดังนั้นสิ่งที่ตนได้หาหรือกับ พล.ต.ท.สำราญฯ ที่ได้เห็นความสำคัญของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านสายตรวจ ที่ออกปฎิบัติหน้าที่และอาจจะพบเจอสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้าต่าง ๆ ที่สุ่มเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับทักษะในการเข้าระงับเหตุ โดยในบางผู้ปฏิบัติงานอาจจะหลงลืม ทักษะหรือยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุโดยไม่คำนึงถึง อันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้ จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต จากการปฎิบัติหน้าที่ได้ โดยทิ้งให้ครอบครัวต้องอยู่แบบขาดเสาหลักไป
รรท.ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า การที่บช.น.ได้ริเริ่มโครงการดังกล่าว 9 รุ่นนับจากนี้ไป ถือว่าเป็นสิ่งคอยกระตุ้นเตือนให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน มีทักษะเเละความชำนาญใน ขณะเข้าใช้ยุทธวิธีในการระงับเหตุ ซึ่งการประเมินสถานการณ์มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น จะจำเป็นที่จะตอนใช้กำลังเพียงเเค่2 นายหรือต้องมีการเรียกกำลังเสริมจากสถานีตำรวจหรือหน่วยงานข้างเคียงที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งการประเมินในเเต่ละ สถานการณ์จำเป็นต้องยึดมั่นในอุดมคติของตำรวจคือ “ต้องรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต”
นากจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้มีคำสั่งให้พล.ต.ต. ชรินทร์ ให้จัดทำโครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ และการประเมินสถานการณ์ในหน้างานป้องกันปราบปรามของกองบัญชาการตำรวจนครบาลในระดับสารวัตรต่อไป เพื่อให้เกิดทักษะและความชำนาญในระดับของผู้ปฏิบัติที่เหนือขึ้นไป ซึ่งมีความจำเป็นในการควบคุมกำกับเเละสั่งการ ให้เป็นไปตามจุดธวิธีและการประเมินหน้างานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย