หน้าแรกการเมือง‘พ่อน้องหญิง ’เข้าขอบคุณ 'ศรีวราห์' ช่วยจี้ คดีฆาตกรรมอำพราง-จับตัวคนฆ่าได้

‘พ่อน้องหญิง ’เข้าขอบคุณ ‘ศรีวราห์’ ช่วยจี้ คดีฆาตกรรมอำพราง-จับตัวคนฆ่าได้

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายสุบิน ยาวิราช พร้อม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์ รอง ผบ.ตร.และ คณะเจ้าหน้าที่ตํารวจ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อขอบคุณที่ได้เร่งรัดการดําเนินคดีและสามารถติดตามคนร้ายที่หลบหนีมาดําเนินได้ในที่สุด

นายอัจฉริยะ ได้กล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.ศรีวราห์และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ช่วยเร่งรัดคดี จนขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องของคันเกียร์ ที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่คนร้ายจะเอาศีรษะน้องหญิงไปโขกกับคันเกียร์ ซึ่งเรื่องนี้กำลังส่งหลักฐานให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการต่อไป ส่วนเงิน 3 แสนบาท มีหลักฐานชัดเจนจากพยาน 2 ปาก ซึ่งรายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีของกองบังคับการปราบปราม และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครที่ตกเป็นผู้สงสัยเพิ่ม

ขณะที่นายนายสุบิน ยาวิราช บิดาน้องหญิง กล่าวขอบคุณที่ช่วยทำคดีให้เกิดความเป็นธรรม พึงพอใจคดีมาก และจะสวดอภิธรรมศพวันที่ 21 สิงหาคม และฌาปนกิจในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ที่วัดเกิดการอุดม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

พล ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่าคดีดังกล่าว จากเหตุที่ น.ส.นรีกานต์ หรือหญิง ยาวิราช อายุ 19 ปี เดินทางกลับที่พัก โดยการโดยสาร รถบรรทุกเทรลเลอร์ ซึ่งมีนายสุรพล หรืออ็อฟ ดาราคํา อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 24 ม.7 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ขับขี่ และต่อมาพบว่ามีบาดแผลบริเวณศีรษะ กะโหลกศีรษะแตกและถึงความตายในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณถนนคู่ขนานถนนสายเอเชีย หน้าร้านปลาช่อน อบฟาง ม.5 ต.บ้านหว่า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.61 โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับคดีไว้ตามคดีชันสูตรที่ 146/2561 ลงวันที่ 20 ก.ค.61 และพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ได้รับคําร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 509/2561 ลงวันที่ 20 ก.ค.61 ต่อมา นายสุบิน ยาวิราช อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 ม.3 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ บิดาของผู้ตาย และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ติดใจสงสัยในสาเหตุ การตายและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดําเนินคดี จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ทํา การสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และดําเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง

ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคําสั่ง ลงวันที่ 29 ก.ค.61 มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ตรวจสํานวนการสอบสวนและสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และ ภ.1 ได้มี คําสั่งที่ 227/2561 ลงวันที่ 30 ก.ค.61 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยไดเแจ้งข้อกล่าวหา ดําเนินคดีกับ ผู้ต้องหา ดังนี้

1. นายสุรพล หรืออ็อฟ ดาราคํา ในความผิดฐาน “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทําด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจาก เสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่น”

2. น.ส.สิรินาถ หรือเป็ด รอบรัมย์อายุ 18 ปีอยู่ บ้านเลขที่ 86 ม.6 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย5 ในความผิด ฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทําด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพใน ร่างกาย และเป็นเหตุให้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย” โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 อยู่ระหว่างฝากขัง ต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคดีอยู่ระหว่างการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยอีกว่า คดีความ มีความคืบหน้าไปร้อยละ 90 แล้ว ยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจที่ถูกสั่งย้าย ยังไม่ถูกส่งกลับไปในพื้นที่เดิม โดยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ตำรวจ เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องขอบคุณพ่อน้องหญิง และนายอัจฉริยะ ที่ช่วยแจ้งเหตุ เพื่อให้ตำรวจทั่วประเทศได้เห็นว่าเมื่อมีเหตุให้รีบดำเนินการ ไม่ต้องรอให้มาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเมื่อมาร้องเรียนตำรวจในพื้นที่จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และไม่ถือว่ากรณีเป็นบุญคุณ เพราะตำรวจทุกนายกินภาษีประชาชน เป็นเงินเดือน เป็นหน้าที่อยู่แล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img