“พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมสังเกตการณ์ และเร่งแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร รองรับการเปิดภาคเรียน มุ่งลดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน
ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว โดยได้รับฟังสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการจราจร ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะ แท็กซี่ และรถสามล้อ จอดกีดขวางส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้โดยสาร และเกิดปัญหาการจราจรติดขัด ประกอบกับเป็นช่วงของการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 และเข้าสู่ฤดูฝนในบางพื้นที่อาจเกิดผลกระทบในด้านการจราจร
วันนี้ (15 พฤษภาคม 2567) เวลา 17.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และคณะ ลงพื้นที่ตรวจการจราจรบริเวณแยกปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังแนวทางการดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นเวลานาน และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนการศึกษาของโรงเรียนส่วนใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ในการอำนวยความสะดวกการจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด เช่น พื้นที่ที่มีรถรับจ้างสาธารณะ รถขนส่งจอดกีดขวางพื้นผิวการจราจร และเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดเป็นประจำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน เพื่อรองรับช่วงการเปิดการศึกษาและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดแบบต่อเนื่อง
โดย พล.ต.ท.กรไชย ฯ ได้ดูการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า MBK และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียง อยู่ในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยจะประเมินสภาพการจราจรในช่วงเปิดภาคเทอม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญส่งผลกระทบกับปัญหาการจราจรในภาพรวมทั้งระบบ
พล.ต.ท.กรไชย ฯ กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่วิเคราะห์สถานการณ์การจราจรในห้วงการเปิดภาคการศึกษาวันแรกทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติที่หน่วยปฏิบัติมีแนวทางดำเนินการอยู่แล้ว แต่อาจมีปัจจัยด้านอื่นที่ส่งผลทางอ้อม เช่น ปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้น สภาพอากาศ ฝนตก น้ำท่วมขัง หรือพื้นผิวการจราจรที่ซ่อมสร้าง เป็นต้น ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกว่า 4,000 นาย คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษา ประสานการทำงานในพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อรับรถเข้าเมือง เร่งระบายออกเมือง และบริหารสัญญาณไฟจราจรให้มีความสัมพันธ์กับปริมาณรถ ซึ่งสภาพการจราจรอาจจะมีติดขัดบ้างตามหน้าสถานศึกษาที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่น โดยกำชับความร่วมมือระหว่างตำรวจ ผู้ปกครอง และสถานศึกษา ในการบริหารจัดจุดรับส่งนักเรียน-นักศึกษาอย่างเป็นระบบ มีการนำจิตอาสาจราจรมาช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้ใช้รถใช้ถนน บริเวณหน้าโรงเรียน โดยเฉพาะบริเวณทางข้ามทางม้าลาย พร้อมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์นิรภัยในการขับขี่ ได้แก่ การสวมหมวกนิรภัย การรัดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนขอความร่วมมือกับโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ในการใช้มาตรการองค์กร เพื่อให้ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา ปฏิบัติตามกฎจราจร ทั้งภายในและบริเวณโดยรอบพื้นที่ ทั้งนี้ ตำรวจจราจรได้มีการประสานงานกับสถานีตำรวจนครบาลข้างเคียง ให้ปล่อยสัญญาณไฟจราจรให้สัมพันธ์กัน และจะได้มีการประชุมเพื่อปรับแผนการอำนวยจราจรในภาพรวมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ที่มีสภาพการจราจรหนาแน่นคล้ายกับพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ได้กำชับในการเพิ่มมาตรการกวดขันวินัยจราจรและอำนวยความสะดวก ขนส่งสาธารณะ การบริหารจัดการจราจรในภาพรวม รวมทั้งการรณรงค์เสริมสร้างวินัยจราจรร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่อย่างเป็นระบบ พร้อมประสานงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มในจุดที่เป็นปัญหา เพื่อเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนได้สั่งห้ามไม่ให้มีการเรียกรับประโยชน์โดยมิชอบเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีโทษทางวินัยและอาญาเป็นตัวกำกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชย ฯ กล่าวว่า ขอฝากถึงผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ รถประจำทาง ขอให้การจอดรับส่งผู้โดยสารในจุดที่กำหนด เพื่อไม่ให้กระทบกับปัญหาจราจรโดยรวม และฝากถึงผู้ขับรถโดยสารแท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊ก ว่า การเรียกเก็บค่าโดยสารขอให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม เป็นธรรมกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หากมีมิเตอร์ขอให้กดมิเตอร์เพื่อให้ราคาอยู่ในอัตราที่กำหนดในทุกกรณี เพื่อร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ