ตร.ไฟเขียวเล่นน้ำท้ายกระบะได้ ชี้สงกรานต์2วันแรกอุบัติเหตุลดลงอย่างมีนัยยะ

625

ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยปีนี้ไม่ห้ามเล่นน้ำท้ายรถกระบะ ยันอุบัติเหตุสงกรานต์ 2 วันแรกลดลงอย่างมีนัยยะ ย้ำไม่ตบแต่งตัวเลข พร้อมสั่งตรวจสอบสาเหตุแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 เม.ย. ที่ศูนยปฎิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวก่อนการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วง 2 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ พบว่าลดลงอย่างมีนัยยะเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิต นอกจากนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการตบแต่งตัวเลข ข้อมูล ทุกอย่างต้องเป็นความจริง ส่วนกรณีที่มีเหตุยิงกันในสถานบันเทิงในพื้นที่นครศรีธรรมราชนั้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ก็จะสั่งให้ตรวจสอบว่ามีการลักลอบนำอาวุธเข้าสถานบันเทิงได้อย่างไร พร้อมให้ทุกพื้นที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุ

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า แนวโน้มอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วงหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและต่อวินัยการจราจรของผู้เดินทางเอง โดยเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก และความจริงจังเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่ ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์หรือตรวจความเร็วของรถ อย่ามองว่าเป็นเรื่องน่ารำคาญ เพราะหากสามารถบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายได้จริงจัง จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตได้

พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ กล่าวว่า การตรวจสอบไฟส่องสว่างตามถนน จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอนั้น ยอมรับว่ามีปัญหา แต่บางกรณีอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทางตำรวจได้มีมาตรการดูแลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เสียบนถนน โยกย้ายให้พ้นการกีดขวางจราจร รวมถึงประสานไปยังบริษัทต่างๆ ให้ดูแลเรื่องจุดชาร์จไฟ แต่ต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนตรวจสอบทั้งสภาพรถ การจราจร และจุดชาร์จด้วยตัวเอง

“ส่วนการจับการบรรทุกน้ำขึ้นหลังรถกระบะเพื่อเล่นสงกรานต์นั้น สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ฉบับใหม่ โดยสามารถนั่งท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน และขับเลนซ้าย ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย ส่วนการแต่งกายร่วมเล่นน้ำนั้น ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสมแต่หากมีการแต่งกายที่ล่อแหลม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับบุคคลคนรอบข้าง เจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมเช่นกัน” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว


สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสมสองวัน 11-12 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 632 ครั้ง ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 76 ราย ลดลง ร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 621 คน ลดลงร้อยละ 11.43 ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม 2 วัน รวม 7,236 ราย สถิติสูงสุดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 2,089 คน รองลงมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 1,718 ราย

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #สงกรานต์