เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) เปิดถึงกรณีโรงงานพลุระเบิด ที่ จว.สุพรรณบุรี ทำให้เกิดความเสียถึงชีวิต จำนวนมาก ครอบครัว ผู้สูญเสียได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว ก่อนอื่นท่าน พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.พร้อมตนขอเป็นตัวแทนข้าราชการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 แสนกว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวกับครอบครัวผู้ที่สูญเสียครอบครัวทุกท่าน และตน“ต้องขอชื่นชม“พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต
ผบช.ภ.7 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ที่เปิดบัญชีขอรับบริจาคเงินจากเพื่อนข้าราชการการตำรวจเป็นการภายใน”
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าในอีกมุมหนึ่ง ตำรวจนอกจากมีบทบาทหน้าที่ในการตรวจ การรักษาที่เกิดเหตุ การดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฏหมายแล้ว ขณะเดียวกันสิ่งหนึ่งที่ตำรวจเรามีหน้าที่คือ ต้องดูแลความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นหน้าที่สำคัญที่ตำรวจเราจะต้องหาวิธีหรือกำหนดช่องทางเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต เหตุที่เกิดขึ้นใครผิด ใครถูก ค่อยว่ากัน แต่จากการที่ลงพื้นที่ไปพบ ไปเห็น ก็เห็นว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ รับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงชีพไปวันๆ ถ้าไม่รับจ้างทำงานในโรงงานผลิตพลุก็คงจะยากลำบาก ซึ่ง ผบช.ภ.7 และ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้เสนอแนวคิดในการเปิดบัญชีรับบริจาคเงิน ซึ่งจะสิ้นสุดและปิดบัญชีในวันที่ 31 ม.ค.นี้ตนจึงขอเชิญชวนพี่น้องข้าราชการตำรวจที่พอจะมีกำลังมีทรัพย์ร่วมด้วยช่วยกันบริจาคทรัพย์เพื่อนำเงินไปเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในการเยียวยาจิตให้กับครอบครัวผูัสูญเสีย
สำหรับการบริจาคสำหรับกรณีนี่ ได้มอบหมายให้ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ตรวจสอบยอดเงินบริจาคแล้วรายงานให้ตนทราบทุกวันในเวลา 15.00 น. และเมื่อครบกำหนดปิดบัญชีแล้ว ก็จะมีการตรวจสอบยอด และมอบให้ญาติตามสายเลือดที่มีสิทธิ์โดยชอบธรรม ซึ่งจะจัดสรรเงินที่ได้บริจาคให้กับ 23 ครอบครัวนั้น ต่อไป
ทั้งนี้เจตนารมณ์ของตนจริงๆนั้นคิดว่าการที่ให้เปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อช่วยเหลือในครั้งนี้ ก็เป็นการรู้กันภายในวงการตำรวจ จะทำให้ตำรวจที่มีจิตเป็นผูัพิทักษ์สันติราษฎ์ ที่ดีๆยังมีอีกมากมาย ที่ได้ทำอะไรที่ซึ่งตำรวจเองมีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยเจตนาที่ต้องการช่วยเพื่อนมนุษย์ในยามมีทุกข์ ตำรวจทุกนายที่ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ในครั้งนี้ ก็สุขใจ ”รอง ผบ.ตร.กล่าว“
