สืบเนื่องจากวันที่ 13 ม.ค 67 กองบังคับการสืบสวนนครบาล ได้ทำการจับกุม “นายใหญ่ 29ยอด” หรือ “นายนภดล” หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์หลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยสาวถูกบังคับขืนใจกว่า 25 ครั้ง ถึงจะได้กลับบ้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รองผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช ทำการสืบสวนขยายผลผู้ก่อเหตุร่วมในคดีดังกล่าว วันที่ 15 ม.ค. 67 พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช พร้อมชุดปฏิบัติติการที่ 3 จึงได้ทำการสืบสวน จนพบว่า นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ 1405/2566 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 กระทำความผิดฐาน“ร่วมกันค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของผู้อื่น, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ 1405/2566 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ได้หลบหนีมาอยู่ที่ ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจดส. สืบสวนจนพบว่า นายอาทิตย์ฯ หลบมาพักอาศัยที่ อัญชลีอพาร์ทเม้นท์ จึงได้ทำการเฝ้าติดตามจนพบ นายอาทิตย์ฯ เดินกลับเข้าที่พักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัว และทำการจับกุม
จากการสอบถาม นายอาทิตย์ฯ ยอมรับว่าเป็นล่ามให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านจริง โดยจะได้รับเงินเดือนเป็นเงินสดประมาณเดือนละ 35,000 บาท จะต้องทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เริ่มงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง5โมงเย็น ได้หยุดวันอาทิตย์ กระบวนการของแก๊งนี้คือ จะโทรหลอกประชาชนคนไทย ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี 3ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะโทรมาแจ้งว่าคุณถูกดำเนินคดี เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ จะไปต่อขั้นตอนที่ 2 โดยให้คุยกับทางร้อยเวร และจะต้องให้เหยื่อ Add line เพื่อส่งรูปบัตรประชาชน ยืนยัน เมื่อเหยื่อส่งบัตรประชาชนกลับไปทางแก๊งดังกล่าวจะรีบนำข้อมูลไปทำเอกสารปลอมขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าถูกดำเนินคดีจริง และขั้นตอนสุดท้าย ขั้นตอนที่ 3 เหยื่อจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นระดับสารวัตร เพื่อที่จะหลอกเหยื่อโอนเงินเพื่อเคลียร์คดีดังกล่าว
จากการสอบถามเคยหลอกเหยื่อได้เงินมากสุด เป็นจำนวนเงินถึง 2ล้านบาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะโทรผ่าน แอปพริเคชัน ที่ไม่สามารถระบุเบอร์ที่โทรมาได้ นายอาทิตย์ฯยอมรับว่า ได้เข้าสู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ผ่าน เพจหางานในเฟสบุ๊ค ชื่อเพจ “หางานที่ปอยเปต” โดยนายอาทิตย์ฯ ได้เข้าไปสมัครงานเนื่องจากสามารถพูดภาษาไทยและจีนได้ หลังจากนั้นเจ้าของเพจ จะทำการส่งตั๋วเครื่องบินมาให้นายอาทิตย์ฯ เพื่อเดินทางจากเชียงรายมาที่กรุงเทพ และจะมีรถมารับเพื่อพาหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ มาทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจดส.จึงได้ทำการจับกุมและนำผู้ต้องหาส่งสภ. ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
