ผบ.ตร.นั่งหัวโต๊ะประชุมศปก.ตร. ระดมเจ้าหน้าที่กว่าแสนนาย ดูแลความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 ธ.ค. ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมกำชับการปฎิบัติและติดตามสถานการณ์ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เข้าร่วม
ผบ.ตร. กล่าวว่า จุดใหญ่ที่มีการจัดกิจกรรม Countdown ทั่วประเทศไทยมีทั้งสิ้น 46 จุด โดยใช้กำลังพล 1 แสนนายทั่วประเทศ ซึ่งจุดเซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานมากกว่า 1 แสนคน จึงมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2,200 นายเข้ามาดูแลตรงจุดเซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากเซ็นทรัลเวิล์ดแล้ว จะมีจุดคัดกรองใหญ่อีก 2 จุด คือไอคอนสยาม และเอเชียทีค โดยมีการวางมาตรการคุมเข้มในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คัดกรองอาวุธ
“ในวันนี้ตนจะลงไปที่ศูนย์ CCOC ของเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อดูภาพรวมของเซ็นทรัลเวิล์ด รวมถึงจุดคัดกรองเรื่องอาวุธ แอลกอฮอล์ ที่ถนนเพรชบุรีและแยกราชประสงค์ ส่วนการวางจุดสำหรับอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉินนั้นมี 2 ทาง และจะมี MC ด้านจิตวิทยามา ประชาสัมพันธ์ในช่วงเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์อิแทวอน (Itaewon) ประเทศเกาหลีใต้“ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการวางมาตรการหลังเสร็จกิจกรรม Countdown โดยมอบหมายให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งดูด้านงานการจราจร และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ดูแลงานด้านการปราบปราม เพื่อให้ประชาชนกลับบ้านอย่างปลอดภัย อีกทั้งได้มีการใช้ AI มาคำนวณว่าจุดไหน เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และใช้สัญลักษณ์มาแจ้งเตือนเพื่ออำนวยความสะดวกและ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย
ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดรถสุขาสาธารณะมีจุดจอด 10 คัน, ไฟส่องสว่าง (Air Light) 5 จุด, รถดับเพลิง 3 จุด 4 คัน, รถควบคุมผู้ต้องหา 2 จุด 4 คัน, รถพยาบาล 7 คัน การประสานโรงพยาบาลในกรณีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และมีจุดปฐมพยาบาล 5 จุด จุดประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลงาน 3 จุด และมีจุดรับแจ้งเหตุ จุดรวมพล กองอำนวยการของเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและเทศกิจภายในงาน โดยภายในงานจะมีทางเข้าออก 2 ฝั่ง ได้แก่ ฝั่งสี่แยกราชประสงค์ และฝั่งสี่แยกประตูน้ำ มีจุดตรวจอาวุธ 10 ประตู อุปกรณ์ตรวจอาวุธแบบมือถือ 20 เครื่อง และเจ้าหน้าที่ชาย-หญิง 30 คน อีกทั้งยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV และ Monitor ดูแลความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้าและออก
จากนั้น เวลา 15.00 น. วันนี้ (31 ธ.ค. 2566) ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาตรวจเยี่ยมมาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการดูแลความปลอดภัยงานเคาท์ดาวน์ ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์ ทุกฝ่ายมีความพร้อม มีการซักซ้อมแผนปฏิบัติเหตุต่างๆ ภาพรวมค่อนข้างมั่นใจในการรักษาความปลอดภัย คาดว่าคนจะมาร่วมงานหลายหมื่นราย จึงได้กำชับมาตรการดูแลความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย การดื่มสุรา ทะเลาะวิวาท หรือเหตุอื่นๆ โดยเฉพาะงานใหญ่ๆ ที่มีคนมาร่วมงานจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียได้
มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ควบคุมภาพรวมความปลอดภัย มีกล้อง CCTV แผนการปฏิบัติกรณี จำนวนคน ลดความแออัด พื้นที่เข้าออกที่สะดวก ปลอดภัย การตรวจตราความปลอดภัยช่วงก่อน ขณะ และหลังการจัดงาน จัดเจ้าหน้าที่ EOD และสุนัข K9 สนับสนุนการปฏิบัติ โดยต้องทำให้ครบทุกมิติ ให้ผู้บังคับบัญชาเข้าไป ควบคุมดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
ในภาพรวมทั่วประเทศมีการจัดงานขนาดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มเป็นพิเศษ 46 แห่ง เช่น พื้นที่ กทม. ลานเซ็นทรัลเวิลด์ เอเชียทีค ไอคอนสยาม ในส่วนต่างจังหวัดจะมีการจัดงานขนาดใหญ่ตามจังหวัดท่องเที่ยว เช่น พัทยา ชลบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่
ส่วนโครงการ “ร่วมใจดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ ฝากบ้านกว่า 6,000 หลังขณะนี้ทุกหลังเรียบร้อยดี ยังไม่มีเหตุ
การป้องกันและลดอุบัติเหตุ มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดภาพรวมทั่วประเทศ จับกุมเมาแล้วขับไปแล้ว 6,349 ราย รวม 10 ข้อหาหลัก 132,686 ราย แต่ภาพรวมอุบัติเหตุปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องดำเนินการคุมเข้มบังคับใช้กฎหมายในช่วงที่เหลือต่อไป
ส่วนการจราจร ตำรวจทางหลวงรายงานว่า วันที่ 30 ธ.ค.66 มีรถออกกว่า 544,459 คัน แต่น้อยกว่าวันที่ 29 ธ.ค.ที่รถออกกว่า 639,999 คัน มีการเปิดช่องทางพิเศษต่อเนื่องทั้งวัน ส่วนมอเตอร์เวย์ M6 มีรถเดินทางกว่าวันละ 30,000 กว่าคัน แบ่งเบาถนนมิตรภาพได้เกือบ 30% ภาพรวมสามารถส่งรถออกห้วง 26-30 ธ.ค.66 กว่า 3 ล้านคัน ซึ่งขณะนี้การจราจรสู่ภาวปกติ ประชาชนเดินทางถึงภูมิลำเนา ส่วนการเดินทางกลับ คาดว่าวันนี้จะมีประชาชนเดินทางกลับเข้า กทม.บางส่วน แต่จะหนาแน่นมากที่สุดจะเป็นวันที่ 1 ม.ค.67 คาดว่าจะมีรถเดินทางกว่า 617,000 คัน มากกว่าปกติเกือบ 30%
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมีความสุขกับการเฉลิมฉลองงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความพร้อม ส่งตำรวจกว่า 1 แสนนาย ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกมิติ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชนมีความสุขในช่วงปีใหม่นี้ ตามนโยบาย นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณกำลังพลตำรวจทุกนาย ที่ร่วมการปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมา มีความตั้งใจ ทุ่มเท เสียสละ เพื่อดูแลทั้งการจราจร ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
