“วัชรินทร์”รองอธิบดีอัยการ “ผู้ช่วยฯอ้อ”ร่วมประชุมคดี”เป้140ล้าน”

414

“วัชรินทร์”รองอธิบดีอัยการ “ผู้ช่วยฯ อ้อ” ร่วมประชุม คดีเป้ 140 ล้าน หลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์”เซ็นตั้ง ผู้ช่วย”อัคราเดช พิมลศรี”เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคนใหม่ จัดพนักงานสอบสวนเเน่น 60 กว่าคน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามห้องประชุมชั้น 2 นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผช.ผบ.ตร.พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.พ.1.พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ ตร.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง.ผบช.ก.เข้าร่วมประชุมพร้อมชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดี 140 ล้าน

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีการกล่าวหา พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ กับพวกรวม 10 ราย ตลอดจนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

กรณีไปจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แล้วนำตัวไปรีดเงิน 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการเคลียคดี จนมีวลีเด็ดว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” แต่ภายหลังกลุ่มผู้ต้องสงสัยไม่พอใจกับพฤติกรรมของตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจชุดดังกล่าว

ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา และต่อมา ป.ป.ช. ก็มีคำสั่งให้ส่งสำนวนกลับมาให้ชุดพนักงานสอบสวนทำคดีต่อ

ซึ่งคดีดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะต้องมีพนักงานอัยการเข้าไปร่วมสอบสวนกับตำรวจในชั้นสอบสวนด้วย ซึ่งเดิมทีเป็นอำนาจของสำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี แต่เนื่องด้วยมีการเกิดเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และเชียงราย ทางสำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี จึงทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด ว่าเห็นควรให้ทำคดีนี้อย่างไร

ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุด ก็ได้มีคำสั่งให้สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ทำคดีร่วมสอบสวนกับตำรวจ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานทำสำนวนเสนอไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตฯ พิจารณา

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #คดีเป้140ล้าน #ตำรวจไซเบอร์