“ธรรมนัส” ลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรวิสัย พร้อมเดินหน้าพักหนี้เกษตรกร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กล่าวหลังลงพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรวิสัย (สาขานกเหาะ) ต.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด รับฟังปัญหาความต้องการด้านต่างๆของผู้นำสหกรณ์ พบปะสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่พร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ เน้นย้ำพี่น้องเกษตรกรต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค ว่า วันนี้ได้มาเพื่อให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่บริหารจัดการสหกรณ์จนเกิดกำไรถึง 33 ล้านบาท และสามารถจัดสรรเป็นกำไรให้กับสมาชิก 27 ล้านบาท ถือเป็นสหกรณ์ตัวอย่างที่ดี
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือเกษตรกร และพี่น้องชาวนาทั่วประเทศ คือรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีการผลิต 66/67 โดยสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 66/67 โดยได้รับการสนับสนุนเงินชะลอขายข้าว 300 ล้านบาท ซึ่งเกิดประโยชน์แก่พี่น้องชาวนาอย่างมาก จะเห็นได้ว่าราคาข้าวที่ได้ในเวลานี้ ตันละ 13,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 13 บาท อีกทั้งสหกรณ์คืนให้พี่น้อง เกษตรกร 200 บาท/ตัน เท่ากับเกษตรกรขายข้าวในสถานที่แห่งนี้ได้ 13,200 บาท นอกจากนี้ ยังได้เร่งส่งออกข้าวสู่ประเทศเพื่อนบ้านให้เยอะที่สุด และหามาตรการลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งพัฒนาคุณภาพข้าว หาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ให้พี่น้องเกษตรกรด้วย
ร.อ.ธรรมนัส ได้แจ้งข่าวดีเกษตรกรเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 28 พ.ย. นี้ รัฐบาลจะสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท พร้อมมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำแผนพักหนี้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ โดยใช้มาตรการเดียวกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมถึงเตรียมงบประมาณสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เพื่อลดรายจ่ายค่าพลังงานและส่งเสริมสหกรณ์ให้มีรายได้ช่วยพี่น้องเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 66/67 นั้น สมาชิกสหกรณ์จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าร่วมโครงการ โดยสหกรณ์สามารถดึงราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสดสูงขึ้นจากราคาตลาด และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 317 แห่ง ใน 49 จังหวัด ปริมาณรวบรวมข้าวเปลือก 958,654 ตัน มูลค่า 10,319 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการพักชำระหนี้เกษตรกร ผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินและพัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้ สร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิก และสมาชิกสามารถชำระหนี้ได้มากขึ้นนั้น กรมฯจะใช้มาตรการและแนวทางการดำเนินงานเดียวกันกับธ.ก.ส. และจะออกหลักเกณฑ์หรือวิธีการดำเนินงาน พร้อมแจ้งให้พี่น้องเกษตรกรทราบอีกครั้งหนึ่ง
สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2520 ปัจจุบันมีสมาชิก 9,055 ราย โดยธุรกิจที่ช่วยเหลือสมาชิกได้มากที่สุด คือ ธุรกิจรวบรวมข้าวเปลือกและแปรรูปในโรงสีข้าวสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์มีอุปกรณ์การตลาดครบวงจร ในทุก ๆ ปีสหกรณ์จะได้เงินกู้ต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลผ่าน ธ.ก.ส. เช่น โครงการชะลอข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ซึ่งมีวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อสถาบัน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ซึ่งมีวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท.
ลักษณะศักดิ์ โรหิตาจล
ข่าว