“พล.ต.ท.ภาณุรัตน์”เสริมเขี้ยวเล็บ ป.ป.ส.จัดอบรมเจ้าพนักงาน ประเดิมล็อตแรกตำรวจ 7 พันนายรับปฏิบัติการลดความรุนแรงยาเสพติด

669

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566  พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประเภท 4 สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ท่านวิทยากร เจ้าหน้าที่โครงการ รวม 23 นาย และผู้เข้าร่วมรับการฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์ WebEx (ข้าราชการตำรวจ) สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 7,419 นาย ณ ห้องประชุมยอดมณี อาคาร 3 ชั้น 5 สำนักงาน ป.ป.ส. กรุงเทพฯ


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ฯ กล่าวว่า การเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องผ่านการฝึกอบรม ตามที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 บัญญัติไว้ เพื่อให้มีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจ และแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 และต้องสอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 จึงจะได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้ง และมอบบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในลำดับถัดไป โดยในครั้งนี้ ผู้ขอรับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ยื่นความประสงค์ และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว ลำดับแรกจำนวน 7,419 คน จาก 17 กองบัญชาการ


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายที่สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกำหนดให้มี “ปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปี” และมีปฏิบัติการที่ต้องเร่งรัดดำเนินการในวันที่ 1 ธ.ค.66 คือ ปฏิบัติการ Quick Win ลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาจิตเวชยาเสพติด ซึ่งมี 6,987 คน ที่ต้องนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และการกำหนดพื้นที่เป้าหมายสกัดกั้นยาเสพติดตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ มีจังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีจังหวัดนครพนม รวมถึงยุทธการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” เพื่อร่วมกับชุมชนในการกำจัดผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ภารกิจอันสำคัญเหล่านี้ มีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาข้าราชการตำรวจ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ในการขับเคลื่อนปฏิบัติการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วง


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามสำนักงาน ป.ป.ส. ผมขอขอบคุณเพื่อนข้าราชการตำรวจ ทั้ง 7 พันกว่านาย ที่ได้อาสาเข้ามาสมัครเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อนำเอาอำนาจ หน้าที่ ที่ได้มีบัญญัติไว้ในกฎหมายไปบังคับใช้ได้อย่างถูกต้อง

ดังนั้น หากท่านผ่านการอบรมไปแล้ว และได้รับบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ไปใช้งานแล้ว ในนามของสำนักงาน ป.ป.ส. จะขอมอบการบ้าน ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ใหม่ ได้ไปดำเนินการเป็นสรรพกำลังให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน เช่นยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยดังกล่าวหรือแผนที่จะขยายเวลาการเปิดให้บริการสถานบันเทิง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กทม.,ชลบุรี ,ภูเก็ต และ เชียงใหม่ และที่สำคัญเป็นไปอย่างถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทั้งนี้ขอเตือนว่า หากพบผู้ได้รับบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ใช้อำนาจในทางที่ผิด ปล่อยปะละเลย เรียกรับผลประโยชน์หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันในทางที่ผิด ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในการลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดไม่มีการละเว้น

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ฯ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอให้ผู้บังคับบัญชาที่เข้าร่วมอบรมในวันนี้ ได้ดูแลความประพฤติ ระเบียบวินัย การฝึกยุทธวิธีในการเข้าจับกุม เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียกำลังพล  ทั้งนี้ หากมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต ขอให้รีบแจ้งเลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบ เพื่อจะได้เป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง เข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา และบำรุงขวัญ กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน และขอขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยดีมาโดยตลอด ขอบคุณสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้คำแนะนำและความอนุเคราะห์ เชื่อมโยงระบบการอบรมออนไลน์การอบรมเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในครั้งนี้ ขอบคุณครับ”

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์