ทลายแก๊งนักล่าสมบัติโบราณขายผ่านFBยึดกว่า1พันชิ้นเงินหมุนเวียน 10ล้าน

404

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกรมศิลปากร แถลงปราบแก๊งนักล่าสมบัติโบราณวัตถุขายผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจยึดของกลางกว่า 1,000 ชิ้น เงินหมุนเวียนกว่า10ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร แถลงผลการปราบปรามแก๊งนักล่าสมบัติโบราณวัตถุ ยึดของกลางกว่า 1,000 ชิ้น

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณวัตถุว่ามีกลุ่มคนลักลอบขุด ค้า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ หลังจากนั้นได้มีการนำมาขายออนไลน์แบบผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสอบสวนร่วมกับกรมศิลปากรและได้จับกุม 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายทศพร อายุ 26 ปี นาย ทศพล อายุ 19 ปี และ นายศรีออน อายุ 46 ปี กระทำความผิดฐาน เป็นผู้เก็บได้ซึ่งวัตถุโบราณหรือศิลปวัตถุ ที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้และเบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้น เป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และ จำหน่าย เอาไปเสีย ซึ่งวัตถุโบราณ หรือศิลปวัตถุ โดยผิดกฎหมาย’

ด้าน นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวเพิ่มว่า จากการตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ต้องหา มีการโพสต์ภาพการขุดพร้อมประกาศขายวัตถุโบราณหลายรายการ ทางเจ้าหน้าตำรวจจึงทำการล่อซื้อวัตถุโบราณดังกล่าวและได้ส่งตรวจพิสูจน์ที่กรมศิลปากร ผลการตรวจสอบพบว่าวัตถุโบราณดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งตามพ.ร.บ.นี้ห้ามมิให้ขุด ค้นหา หรือซื้อขายวัตถุโบราณ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดจำนวน 3 หมายจับ พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าน่าจะมีการซุกช่อนโบราณวัตถุ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้กระทำความผิด พบรายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท และมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางจึงได้วางแผนพร้อมประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร ร่วมกันตรวจค้นสถานที่ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้ต้องหาตามหมายจับและเป็นสถานที่เชื่อว่ามีการซุกช่อนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่, พะเยา, สุโขทัย และลำปาง รวม 9 จุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 3 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมจำนวนกว่า 1,000 ชิ้น นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้รับซื้อวัตถุโบราณจากกลุ่มผู้ต้องหา จะมีความผิดฐาน ผู้ใดเก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อนหรือฝัง หรือทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ และ เบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่น ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

#thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์