ครุ่นคิด

โปรดคืนความสุข(จริงๆ) ให้ประเทศชาติและประชาชน

คงไม่มีประเทศไหนอยากมาศึกษาดูงาน(การเมือง)ที่ประเทศไทยเป็นแน่แท้ เว้นแต่ประเทศหรือผู้นำที่ไม่ได้คิดถึงหัวอกประชาชนและสวมบทผู้ที่ต้องการ “ดับกลิ่นความเจริญ”ในสังคมนี้ หรือเป็น “โมเดล”ที่เหมาะสมสำหรับประเทศที่ไม่ต้องการพัฒนา

มีที่ไหนผลเลือกตั้งออกมาประจักษ์ชัด ตัวเลขบ่งชี้ชัดเจน ถ้าเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยในแบบสากลบนโลกใบนี้รู้แล้วว่าใครเป็นนายก ใครจะมาดำเนินนโยบายในฐานะรัฐบาลที่ได้ความไว้วางใจจากประชาชน แต่วันนี้เหมือนประาชนแห่เเลือกซื้อรถคันใหม่ยิ่งกว่าไฮบริดที่นำเสนอนวัตกรรมและการเคลื่อนไปข้างหน้า แต่ว่าด้วยกติกาที่เขียนเอาไว้ จนอาจจะทำให้เราได้”รถคันเก่า”ที่คนค่อนประเทศก็เห็นอยู่แล้วว่า “สมรรถภาพ”เป็นเช่นไร

บ้างก็ว่าผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนมากขนาดนี้รถคันเก่าต้องพักไม่ควรออกมาจากอู่แล้ว เพราะดูสภาพที่ขับมา9ปีกว่า เครื่องยนต์ชักไม่เข้าท่า แต่ทว่า มีความพิลึกกึกกือของคนเขียนกติกา(อันมีที่มาจากรถคันเก่า) เขาต้องการปิดกั้น รถคันอื่นๆ นอกจากทู่ซี้ให้ใช้รถคันเก่า ไม่สนว่ารถจะพัง เครื่องไม่ดีไม่เป็นไร คนเกือบ70 ล้านคนทนต่อไปก็แล้วกัน

กางดูด่านต่างๆที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดและตามสากลคือต้องได้เเป็นรัฐบาล กลับต้องเจอ สารพัดด่าน ทั้ง ม.151 ซึ่งคือกรณีที่ กกต.มีมติรับพิจารณา นายพิธา ตามมาตรา 151 เหตุรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (กรณีถือหุ้นมรดกที่มีหุ้นไอทีวีอยู่) งัดไม้ตายว่ายังฝ่าฝืน

“ด่านแรกเราคงจับตาดู กกต.จะไปต่อจนสุดสายปลาย ทางที่ใด ยังไม่นับด่านสองที่ กกต.เผยว่ามีการรับเรื่องร้องเรียนคนส.ส.20-30คน ซึ่งจำนวนนี้หากมีปัญหาจะสามารถกทำให้”เกมเปลี่ยน” ได้เช่นกัน”

ด่านที่3 คือการยกมือของ ส.ว.ที่ถูกแต่งตั้งจากคนในวังวนวัฎจักรเก่า หากประชาชนอย่างเรา ๆ จะดูให้มีความหวัง ก็ดูริบหรี่ จากกติกาที่เขาเขียน สเปคที่เขาล็อก แม้ว่าเสียงในสภาผู้แทน(ส.ส.)จะมีเสียงรมกันแน่นเหนียวถึง312 เสียง ในทางปฏิบัติงานถือว่ามีเสถียรภาพแล้ว แต่เมื่อ “ส.ว.”ขวางอยู่ ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่า สมาชิกวุฒิสภาที่เหลืออยู่และยังไม่แสดงท่าที จะมีใจให้ คนที่เคยเลือกเข้ามา ทำหน้าที่ กินภาษีรับเงินเดือน หรือว่าจะเคารพหัดฟังเสียงประชาชนบ้าน เพื่อคืนความปกติสุข ให้บ้านเมืองไปต่อได้ไม่เป็นปัญหาอันมีที่มาจาก “ตัวเอง”ที่กำลังจะหมดอายุและเสื่อมอำนาจลง! ก็คงดูต้องว่า ส.ว.เทวดาเหล่านี้จะมีการคิดวิเคราะห์แยกแยะปัญหาบ้านเมืองหรือยังคงเดินหน้าเป็นเข้ขวางคลองต่อไป

ส่วน ด่านอื่นๆ เช่นยุบพรรคล่าสุดนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นสั่งยุติเรื่องกรณีมีการยื่นร้องขอให้ กกต.พิจารณาเสนอเรื่องความพร้อมเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกลในหลายต่อหลายเคสไปแล้วก็ตามเหมือนจะด่านน้อยลง แต่ประชาชนก็คงยังไม่รู้อนาคตตัวเองต่อไปว่าจะได้ใครเป็นรัฐบาล!

และนั่นก็ยังไม่หมดการศึก เมื่อ “ปฏิบัติการข่าวสาร” ยังคงทำงานทำหน้าที่ของมันอย่างเข้มข้น แบ่งแยกคนให้ตีกันเพื่อตัวเองได้ปกครองยังคงเป็น แผ่นเสียงเดิมๆที่อาจจะใช้ได้ผลบ้าง แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้คนที่เขามาจาประชาชนไม่น้อย

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นถ้าจะมีผู้นำสักประเทศอยาก มาศึกษาดูงานการดับกลิ่นความเจริญ โปรดเลือกประเทศไทยเป้นหมุดหมายอันดับหนึ่ง ส่วนประเทศไทยถ้าอยากอยู่ในแผนที่โลกอย่างมีสง่าทั้งที่มาและตัวผู้นำ โปรดทำในสิ่งธรรมดาและสามัญมากๆ นั่นคือ “คืนความ(ปกติ)สุข” ให้บ้านเมืองและประชาชนด้วยการทำตัวขวาง เคารพฟังเสียงเลือกตั้ง อย่าฝืนเจตนารมณ์ของคนหลายสิบล้านเพราะนานมากแล้วที่ท่านบอกจะคืนความสุขให้ แต่ทำไมวันนี้ประชาชนยังรู้สึกทนแล้ว ทนอยู่ ต้องทนต่ออีกหรือ แค่ถอยไปเงียบๆอย่างสง่าว ดีกว่าให้ประชาชนมาขับไล่นะขอรับ..!!!

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img