“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ ‘Unleash the MAX: รุกอย่างเหนือชั้น สู่ผู้นำที่ยั่งยืน’ เผยแนวทางการดำเนินธุรกิจ กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ เน้นการเติบโตเคียงข้างลูกค้าและพันธมิตรอย่างยั่งยืน และยึดหลักธรรมาภิบาล ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ‘โซลูชันครบครัน – บริการครอบคลุม – มุ่งสู่ความยั่งยืน’ ตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดสินเชื่อคงค้างรวม ปี 2566 ที่ 37,000 ล้านบาท พร้อมนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและโซลูชันการบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและพันธมิตรมอเตอร์ไซค์ที่ครบครันและครอบคลุมที่สุด ผ่านการยกระดับมาตรฐานการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
นางสาวชญาน์ธิป พันธุ์มณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้ กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ มีการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างเหนือชั้นเพื่อให้ครองความเป็นที่หนึ่งในวงการสินเชื่อยานยนต์สองล้ออย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ ‘Unleash the MAX: รุกอย่างเหนือชั้น สู่ผู้นำที่ยั่งยืน’ ใน 3 ด้าน
1) โซลูชันครบครันเพื่อลูกค้าและพันธมิตรมอเตอร์ไซค์ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตผู้ใช้รถสองล้อที่ครบวงจรที่สุดและมากที่สุดในตลาด และบริการดิจิทัลที่พร้อมที่สุด
2) บริการครอบคลุม พร้อมมอบประสบการณ์ราบรื่น ไร้รอยต่อ กับทีมที่ปรึกษาทางการเงินของ กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ ที่เข้าถึงและลึกซึ้งถึงใจลูกค้าและพันธมิตรในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านสินเชื่อมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง รวมถึงความพร้อมในการสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว เพื่อช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายธุรกิจมอเตอร์ไซค์และบิ๊ก ไบค์กว่า 2,000 รายทั่วประเทศ และ
3) การดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ผ่านการยกระดับการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ด้วยการพิจารณาสินเชื่อตามความสามารถรายบุคคล และมอบโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมกับพันธมิตรมอเตอร์ไซค์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด”
สำหรับภาพรวมตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในปี 2566 กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ คาดการณ์ยอดขายรถมอเตอร์ไซค์รวมทุกประเภท อยู่ที่ 1,700,000 คัน (-6%) โดยยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก อยู่ในช่วงชะลอตัว ที่ 1,597,500 คัน (-7%) ขณะที่บิ๊ก ไบค์ เติบโตเล็กน้อยราว 1% ด้วยยอดขาย 72,500 คัน และยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เติบโตแบบก้าวกระโดด 203% อยู่ที่ 30,000 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจมอเตอร์ไซค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในส่วนของตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ คาดการณ์แนวโน้มยอดสินเชื่อใหม่ที่ 47,005 ล้านบาท (-6%) อยู่ในช่วงชะลอตัวเช่นกัน สอดคล้องกับยอดขายรถมอเตอร์ไซค์โดยรวม

“ในปีนี้ แม้ตลาดรถสองล้อโดยรวมยังคงชะลอตัว แต่ กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ มองเห็นถึงโอกาสและสิ่งที่น่าจับตามองหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและเฉพาะตัวมากขึ้น รวมไปถึงการให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าและพันธมิตร ที่พร้อมอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์ เราเชื่อว่ารากฐานที่แข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์สองล้อ และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลของกรุงศรี มอเตอร์ไซค์ จะช่วยผลักดันให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง” นางสาวชญาน์ธิป กล่าวปิดท้าย
จากยอดขายมอเตอร์ไซด์ในตลาดที่ลดลง ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ที่เป็นสินเชื่อใหม่ในปี 66 ของบริษัทลดลงราว 3% มาอยู่ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ปล่อยใหม่ไป 2 หมื่นล้านบาท โดยที่ในช่วงไตรมาส 1/66 ที่ผ่านมาถือว่าการปล่อยสินเชื่อใหม่ยังคงสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ในด้านบริการที่ทำให้ลูกค้าและพันธมิตรเครือข่ายดีลเลอร์มีความสะดวกสบายในการยื่นขอสินเชื่อ ผ่านบริการด้านดิจิทัลที่มีความรวดเร็ว ซึ่งตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัลไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท รวมถึงโปรโมชั่นที่แถมประกันให้กับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อของบริษัท
ขณะที่สินเชื่อคงค้างของปีนี้คาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อนที่ 3.7 หมื่นล้านบาท และในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์จะควบคุมให้ไม่เกิน 2% โดยที่กลุ่มลูกค้าของบริษัทยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีต่อเนื่อง และยังมีการชำระหนี้ตามปกติ ทำให้ NPL ของกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับตัวขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ของบริษัทไม่ได้เน้นที่การแข่งขันด้านดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งยังทรงตัวในระดับที่ใกล้เคียงกับตลาด ส่วนดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ขนาดเล็ก และมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เฉลี่ยอยู่ที่ 1.07% ต่อเดือน ดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อบิ๊ก ไบค์ เฉลี่ยอยู่ที่ 3.29% ต่อปี

