“กรุงไทย” ผนึก “ฟิเดลิตี้” ยกระดับบริการบริหารความมั่งคั่ง สร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเวลธ์ โต 100% ใน 3 ปี

181

“ธนาคารกรุงไทย” จับมือ “ฟิเดลิตี้” บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก ผนึกความแข็งแกร่ง 2 องค์กรชั้นนำทางการเงิน ยกระดับบริการบริหารความมั่งคั่ง สร้างประสบการณ์ลงทุนเหนือระดับ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้าธนาคาร พร้อมข้อมูลเชิงลึกจากทีมนักวิเคราะห์ของฟิเดลิตี้ ที่เชี่ยวชาญในทุกสินทรัพย์ทั่วโลก เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนในทุกสภาพตลาด เสริมแกร่งความมั่นคงทางการเงินให้ผู้ลงทุนไทย ตั้งเป้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าเวลธ์เติบโต 100% ภายใน 3 ปี

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ เป็นผู้นำปฏิวัตินวัตกรรมการลงทุน มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย และช่วยให้คนไทยสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกจังหวะของตลาด ผ่านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย บนช่องทางดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้สะดวก ทั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ Krungthai NEXT ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง เดินหน้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาพัฒนาบริการด้านการบริหารสินทรัพย์ หรือ Wealth Tech เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ (Wealth) ให้เติบโต 100% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันธนาคารมีลูกค้ากลุ่มเวลธ์ ที่มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กว่า 200,000 ราย

​ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ธนาคารจึงร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก คือ ฟิเดลิตี้อินเตอร์เนชันแนล (Fidelity International) บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมากกว่า 50 ปี ใน 25 ประเทศทั่วโลก บริหารสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 7.28 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยกระดับบริการด้านการลงทุนของธนาคารแบบครบวงจร ทั้งการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล การแนะนำการจัดสรรพอร์ตเงินลงทุน กลยุทธ์การจับจังหวะตลาดเพื่อเข้าลงทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงทุนที่หลากหลายไร้พรมแดน และบริการด้านบทวิเคราะห์ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของฟิเดลิตี้ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การลงทุนที่แตกต่างและเหนือระดับให้กับลูกค้าธนาคาร

ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของ 2 องค์กรชั้นนำทางการเงิน ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน โดยธนาคารกรุงไทยเป็นผู้นำในการปฏิวัติพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนในประเทศ มีความรู้ ความเข้าใจด้านตลาดการเงินและลูกค้าในประเทศอย่างลึกซึ้ง มีฐานลูกค้าทั่วประเทศมากกว่า 40 ล้านราย ขณะที่ ฟิเดลิตี้ มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดโลก มีทีมผู้จัดการกองทุน และนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ สินทรัพย์ผสมและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะแลกเปลี่ยนมุมมอง งานวิจัยอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอกับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของธนาคาร ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ ยกระดับการลงทุนไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในเบื้องต้น ธนาคารกรุงไทย ฟิเดลิตี้ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) จะผนึกกำลังกันร่วมจัดตั้งกองทุนรวมที่เข้าลงทุนกระจายในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก 3 กองทุนแยกตามเป้าหมายผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทยโดยเฉพาะ ซึ่งกองทุนนี้จะได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการบริหารพอร์ตการลงทุน การวิเคราะห์สภาวะตลาดทั่วโลกเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพ และทันท่วงที ตลอดจนกลยุทธ์การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ ผนวกกับความเข้าใจในเป้าหมายการดูแลบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าไทยอย่างลึกซึ้ง จากทั้งสามองค์กรพันธมิตร

นายราจีฟ มิตตัล กรรมการผู้จัดการ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) กล่าวว่า ฟิเดลิตี้เล็งเห็นถึงศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของเอเชียอย่างก้าวกระโดด จึงมุ่งเน้นขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของฟิเดลิตี้ ซึ่งได้ให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้มานานกว่า 20 ปี การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ฟิเดลิตี้นำประสบการณ์การบริหารการลงทุนทั่วโลกที่สั่งสมมาหลายทศวรรษมาใช้กับหนึ่งในตลาดที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในระดับโลกของฟิเดลิตี้ ผนวกกับเครือข่ายที่กว้างขวางและความเข้าใจในตลาดและลูกค้าไทยอย่างลึกซึ้งของธนาคารกรุงไทย ทำให้คาดหวังว่า จะสามารถส่งมอบบริการและโซลูชันที่หลากหลายมากขึ้นให้กับธนาคารกรุงไทย

ภายใต้ความร่วมมือนี้ ฟิเดลิตี้จะให้การสนับสนุนธนาคารกรุงไทยครอบคลุมหลายด้าน เช่น ด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน ช่วยให้ลูกค้าธนาคารเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก ด้านการให้คำแนะนำการลงทุน ช่วยให้คำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการจัดสรรพอร์ตเงินลงทุนอย่างเหมาะสมตามเป้าหมายผลตอบแทน รวมถึงด้านการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากร ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการลงทุนให้กับผู้ดูแลแนะนำการลงทุนของธนาคาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนไทย