หน้าแรกบทความคดีมหากาพย์! อนุญาโตฯสิงคโปร์ชี้ขาดให้“ณพ ณรงค์เดช”ชำระหนี้ค่าหุ้น WEH ที่ค้างให้ “นพพร”805 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้าน“นพพร”เจ้าหนี้ หวังปัญหาหนี้ค่าหุ้นคลี่คลาย ส่งWEHถึงฝั่งเข้า IPO

คดีมหากาพย์! อนุญาโตฯสิงคโปร์ชี้ขาดให้“ณพ ณรงค์เดช”ชำระหนี้ค่าหุ้น WEH ที่ค้างให้ “นพพร”805 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้าน“นพพร”เจ้าหนี้ หวังปัญหาหนี้ค่าหุ้นคลี่คลาย ส่งWEHถึงฝั่งเข้า IPO

อนุญาโตฯสิงคโปร์ชี้ขาดให้“ณพ ณรงค์เดช”ชำระหนี้ค่าหุ้น WEH ที่ค้างให้ “นพพร” 805 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้าน“นพพร” เจ้าหนี้ หวังปัญหาหนี้ค่าหุ้นคลี่คลาย ส่ง WEH ถึงฝั่งเข้า IPO

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC ที่ประเทศสิงคโปร์ มีคำสั่งชี้ขาดให้ “ณพ ณรงค์เดช” ชำระค่าหุ้น WEH ที่เหลือจำนวน 525 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15% คำนวณรวมเป็นค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งสิ้น 805 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ในฐานะอดีตผู้ถือหุ้นเดิมบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ จำกัด (WEH) และเจ้าหนี้ “ณพ”

ด้านคดีความที่ศาลแพ่งอังกฤษ สิ้นสุดการไต่สวนคดีแล้ว คาดมีคำพิพากษาภายในปีนี้ ขณะที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่ “นพพร” ฟ้อง “ณพและดาว ณรงค์เดช” กรณีเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้วมีการเผยแพร่
นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้ถือหุ้น WEH และเจ้าหนี้ของนายณพ ณรงค์เดช เปิดเผยถึงความคืบหน้าของข้อพิพาทระหว่างตนเองและนายณพ ว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566

ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC ประเทศสิงคโปร์มีคำสั่งชี้ขาดให้กลุ่มนายณพ ณรงค์เดช ชำระค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี รวมเป็นจำนวนเงิน 805 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับกลุ่มของตน พร้อมยังระบุไว้ในคำชี้ขาด ว่า

“ผู้คัดค้าน (คือ กลุ่มบริษัทของนายณพ ณรงค์เดช) ควรชำระค่าหุ้นส่วนที่เหลือตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาแล้ว และเนื่องจากการที่ผู้คัดค้านไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติการชำระหนี้ของตนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น อันส่งผลให้ผู้เรียกร้อง (คือ กลุ่มบริษัทของนายนพพร ศุภพิพัฒน์) จำเป็นต้องยื่นคำเสนอข้อพิพาทและดำเนินคดีเป็นคดีชั้นอนุญาโตตุลาการในศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC ปี 2559 รวมถึงเข้าต่อสู้จากการถูกผู้คัดค้านฟ้องร้องในคดีชั้นอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับที่ดิน สปก. (ซึ่งกลุ่มบริษัทของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ชนะในคดีดังกล่าว) และข้อต่อสู้ของผู้คัดค้านในคดีนี้ก็ได้รับการวินิจฉัยแล้วตามคำชี้ขาดฉบับสุดท้ายในคดีเกี่ยวกับที่ดิน สปก. ปี 2564 กรณีดังกล่าวจึงไม่มีเหตุผลใดที่ผู้คัดค้านจะยังคงไม่ชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากที่มีคำชี้ขาดในคดีดังกล่าวแล้ว”

“จากผลของคำขี้ขาดเห็นได้ชัดว่าอะไรคือความจริง ทุกคนเหนื่อยกันมามากแล้ว ผมหวังว่าจากผลคำชี้ขาดของศาลที่ออกมานี้จะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาแนวทางร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำให้ WEH สามารถที่จะเดินหน้าต่อไป จนสามารถเข้าสู่กระบวนการ IPO ได้ ตลอดเวลาผมตระหนักดีว่า ปัญหาการฟ้องร้องระหว่างผมและคุณณพ สร้างผลกระทบให้กับบุคคลหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือหุ้นเดิม ที่พร้อมและเต็มใจเข้ามาลงทุนเพราะเห็นศักยภาพของบริษัท ผมไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา” นายนพพร กล่าว

ก่อนหน้านี้ ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC ได้มีคำชี้ขาด ค่าหุ้นส่วนแรกที่ยังค้างชำระอยู่ โดยนายณพไม่ได้อุทธรณ์หรือขอให้เพิกถอนคำชี้ขาด จึงถือว่าคำชี้ขาดเป็นที่สุดตามกฎหมาย แต่จนถึงปัจจุบัน นายณพ ณรงค์เดช ก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้กลุ่มบริษัทของตนชำระหนี้ค่าหุ้นส่วนแรกที่ยังค้างชำระให้แก่กลุ่มบริษัทของนายนพพร ศุภพิพัฒน์แต่อย่างใด


ขณะที่ความคืบหน้าคดีความที่ศาลแพ่งประเทศอังกฤษ ตามข่าวที่เผยแพร่ระบุว่านายนพพร ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จากจำเลยต่างๆ เช่น นายณพ และพวก รวม 17 ราย โดยศาลแพ่งอังกฤษได้สิ้นสุดการไต่สวนคดีเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีคำพิพากษาก่อนสิ้นปีนี้

“หากคุณณพ มีเจตนาที่จะชำระหนี้ตามที่ตกลงกันตั้งแต่แรก ก็คงไม่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ และเป็นคดีความยืดเยื้อมานานขนาดนี้ จนส่งผลกระทบต่อบุคคลหลายฝ่าย ผมขอขอบคุณศาลอนุญาโตฯ ที่ให้ความกรุณามีคำชี้ขาดอย่างเป็นธรรม ตามข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏอย่างชัดเจน  ผมหวังว่านายณพ จะเร่งดำเนินการต่างๆ ตามคำชี้ขาดของศาลอนุญาโตฯ เพื่อให้ข้อพิพาทระหว่างผมและนายณพคลี่คลายโดยเร็วที่สุด” นายนพพร กล่าวเพิ่มเติม
ที่ผ่านมา นายนพพร ยังได้ยื่นฟ้อง นายณพ และนางพอฤทัย ณรงค์เดช ภรรยา ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ภายหลังจากที่ทั้งสอง ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ส่วนตัว ที่บิดเบือนความจริง จนทำให้บุคคลทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องการเผยแพร่ข่าวที่ลงคำตัดสินของศาลสิงคโปร์ ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นวินด์เข้าใจผิดว่า ข้อพิพาททั้งหมดสิ้นสุดแล้ว และไม่มีหนี้ที่ต้องชำระ จนทำให้คนจำนวนมากแสดงความยินดีและแชร์ข้อมูลที่ทั้งนายณพและนางพอฤทัยลงในสื่อสังคมออนไลน์ส่วนตัวของทั้งสองคน แต่เปิดเป็นสาธารณะไว้ออกไป ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อตน และคดีความอื่นๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่

ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีการไต่สวนมูลฟ้องคดีดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องคดี โดยให้เหตุผลสรุปว่า เมื่อได้ความจากพยานโจทก์ว่ามีการก่อ จ้างวาน ใช้ เพื่อนำข้อมูลที่เป็นเท็จดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้วมีการเผยแพร่ การกระทำของจำเลยทั้งสอง (นายณพ ณรงค์เดช และนางพอฤทัย ณรงค์เดช) จึงมีมูลความผิดตามฟ้อง โดยศาลนัดสอบคำให้การของนายณพ ณรงค์เดช และนางพอฤทัย ณรงค์เดช ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เวลา 9.00 น. ซึ่งนายณพ ณรงค์เดช และนางพอฤทัย ณรงค์เดช จะต้องทำเรื่องประกันตัวให้เรียบร้อยภายในวันดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (19 เมษายน 2566) ศาลได้นับสืบพยานครั้งแรกในคดีอาญาข้อหาโกงเจ้าหนี้ คดีดำ 157/2561 ที่ศาลแขวงพระนครใต้ โดยกลุ่มบริษัทของนายนพพร (โจทก์) ได้ยื่นฟ้องนายณพ นางพอฤทัย กับ พวกร่วมกันโกงเจ้าหนี้กลุ่มบริษัทนายนพพรโดยการโอนหุ้น WEH ไปให้นายเกษม ณรงค์เดช ซึ่งเป็นบิดาเพื่อให้โจทก์ไม่สามารถบังคับเอาเงินค่าหุ้นตามสัญญาจากบริษัทจำเลยได้ เนื่องจากหุ้นดังกล่าวเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทลูกหนี้ คดีนี้ศาลสั่งมีมูลประทับรับฟ้องและให้จำเลยประกันตัวตั้งแต่ปลายปี โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ทราบผล

สิริวรรณ ลีลาประกอบชัย ภาพ/ข่าว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img