ย้ำ!! ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร ดูแลผู้นำรัฐบาลทุกสมัยเหมือนกันหมด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีป้าวันทนา อายุ 61 ปี ชาว จ.ราชบุรี อาชีพค้าขาย ที่ไปยืนตะโกนต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยกดูแลการลงพื้นที่ของบุคคลสำคัญรวมถึงผู้นำรัฐบาลยุคสมัยตามกรอบของกฎหมาย จากเหตุการณ์ป้าวันทนา อายุ 61 ปี ทราบว่ามีการเข้ามาใกล้ตัวและขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมีการด่าทอทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่หน้างานจึงต้องพยายามให้ออกไป เพื่อรักษาความเรียบร้อย ซึ่งตนเองขอไปดูรายละเอียดอีกครั้งว่าเกิดอุบัติเหตุหรือไม่อย่างไร พร้อมระบุทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกได้แต่ตำรวจเมื่อเห็นว่าทำผิดกฏหมายก็ต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ หากเห็นว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุก็สามารถร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตำรวจได้เช่นกัน
ส่วนการเข้าไปจับกุมที่มีการลากดึงและปิดปากป้าวันทนา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุและเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตนั้น ตนเองขอดูรายงานอีกครั้ง แต่เบื้องต้นทราบว่าที่มีการปิดปากเพราะมีการด่าทอใช้คำพูดหยาบคาย ซึ่งตนเองอยากขอว่าการเดินทางลงพื้นที่ของผู้นำของรัฐบาลต่างๆไม่ว่าใครตำรวจก็ต้องดูแลอย่างเข้มข้นอยู่แล้วเพื่อความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีกรณีของอดีตผู้นำของต่างชาติ (ญี่ปุ่น) ถูกลอบสังหาร การดูแลผู้นำของต่างชาติก็เข้มข้นและมีภาพการฉุดกระชากลากถูคนที่แสดงความเห็นต่างเช่นเดียวกัน แต่กฎหมายของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ของไทยอาจจะไม่ถึงขนาดนั้นแต่ว่าก็อยากขอความร่วมมือเพราะตำรวจไม่ได้เป็นคู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับใคร ก็จะทำหน้าที่ในฐานะที่ต้องดูแลความเรียบร้อย หากอะไรที่ทำแล้วอยู่ในกรอบกฏหมายก็สามารถทำได้ แต่หากมีการเตือนแล้วว่าอย่าทำและเสี่ยงผิดกฎหมาย เช่นกรณีที่เกิดขึ้นขบวนรถก็ใกล้จะถึงแล้วเตือนว่าอย่าเข้าไป แต่ยังเข้าไปขวางขบวนและมีการด่าทอตำรวจต้องตัดสินใจหน้างานเพื่อไม่ให้มีการด่าทอจึงใช้มือปิดปาก ซึ่งคงไม่มีใครสั่งแต่เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตำรวจขณะนั้น ซึ่งจะต้องดูข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นบรรทัดฐานในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลผู้นำหรือกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆในอนาคต พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่าอยากขอความร่วมมือว่า ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้งความเห็นต่างมีได้อยู่แล้ว เพราะทุกฝ่ายต้องมีกองเชียร์และมีฝ่ายที่เห็นต่าง ส่วนตัวไม่อยากให้คิดว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมาในพื้นที่ก็จะต้องตั้งป้อมมาด่าทอหรือมาป่วนกัน เพราะว่าไม่อยากให้เกิดภาพลักษณ์แบบนั้นเพราะจะเกิดลัทธิเลียนแบบกันทั้งสองฝ่าย หรืออีกฝ่ายก็จะทำบ้างก็จะเกิดความรุนแรงกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของวัฒนธรรมไทย แต่ออยากให้เห็นว่าใกล้เลือกตั้งแล้วทุกคนออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งน่าจะเป็นภาพที่สวยงามกว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงต่อต้านปลุกระดมให้มีการต่อต้านกันในพื้นที่ พร้อมย้ำว่าหากกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตำรวจต้องดำเนินคดี
ทั้งนี้ ได้มีการกำชับตำรวจในการดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดภาพความรุนแรง เช่น มีตำรวจหญิงมาคอยดูแล แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ยังไม่ยืนยันว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ต้องดูภาพรวมทั้งหมด ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ปฎิบัติหน้าที่ที่ไม่ได้เป็นทั้งฝ่ายเชียร์และต่อต้านด้วย แต่ไปทำหน้าที่ก็ต้องทำให้ดี อยากให้เห็นใจตำรวจเพราะไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ไม่ว่าใครเป็นผู้นำรัฐบาลก็ต้องดูแลทุกยุคทุกสมัยเช่นเดียวกันหมด
