หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"รองฯ ต่อ" รุดรายงาน "บิ๊กเด่น" ปฎิการ "มาเก๊า 888" สั่งเข้ม! สาวถึงใคร ไม่เว้น ดำเนินคดีทุกราย...

“รองฯ ต่อ” รุดรายงาน “บิ๊กเด่น” ปฎิการ “มาเก๊า 888” สั่งเข้ม! สาวถึงใคร ไม่เว้น ดำเนินคดีทุกราย จับตา Ep5 เร็วๆ นี้

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ก.พ.66 ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางไปตรวจเยี่ยมและ ติดตาม การดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.หนองบัวลำภู โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต. ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. ต้อนรับ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้รายงานความคืบหน้าปฎิบัติการ”มาเก๊า888” กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. หลังเปิดปฎิบัติการไป 4 ครั้ง โดยตั้งแต่วันที 3 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมถึงการสอบปากคำ “ผู้กองไบร์ท” ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร รอง สว.ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก บช.สตม. ซึ่งเบื้องต้นทาง ผบ.ตร. เน้นย้ำขยายผลทุกกรณี หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงปรากฎความผิดถึงใครต้องดำเนินคดีทุกราย

ต่อมา เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จุดเริ่มของปฎิบัติการ “มาเก๊า888” มาจากการที่สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจในกรณีที่ดาราสาว “ดิว อริสรา” ออกมาให้ข้อมูล จึงได้เรียน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เพื่อทำการสืบสวน ซึ่งทาง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ได้เน้นย้ำชุดทำงาน ตลอดจนให้คำแนะนำในการทำงานมาตลอด จนเป็นที่มาของปฎิบัติการ “มาเก๊า 888” ตามที่ปรากฎ โดยวานนี้ทางชุดทำงานของ บช.สอท. ได้เข้าตรวจค้นรถหรูตามจุดต่างในกรุงเทพและจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก็ได้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าการดำเนินการ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สอบถามความคืบหน้าว่า จากการดำเนินการขณะนี้สามารถ รวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยเพียงใดและสามารถที่จะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้หรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้รายงานไปว่า ทางชุดทำงานได้มีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของบัญชีม้าและตัวของผู้บงการซึ่งเป็นตัวละครหลัก และจับกุมตัวหลักได้ 1 ราย

อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่า พี่ น้องประชาชนอาจจะเกิดคำถามว่า ทำไมถึงไม่ออกหมายจับทั้งหมด ในส่วนนี้ต้องนำเรียนว่า ตัวละครหลักทางเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจที่จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด เนื่องจากไม่อยากให้เวลาคดีถึงชั้นศาลแล้วมีการยกฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งหากพยานหลักฐานเส้นทางการเงินปรากฏเชื่อมโยงถึงใครก็จะต้องออกหมายจับเพิ่ม แต่ถ้าไม่ปรากฎความผิดเราจะไม่ใช้วิธีการเหวี่ยงแห

สิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจและจับตาคือ การที่กลุ่มผู้ต้องหาบางคนยังคงกบดานหรือหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นให้การช่วยเหลือ ซึ่งหากปรากฏหลักฐานเด่นชัดก็จะต้องนำมาสอบปากคำและหากพบความผิดในส่วนใดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำว่า จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด หากปรากฏหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร อีกทั้งเน้นย้ำว่า หากมีข้าราชการตำรวจคนใดเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ให้เตือนตำรวจว่า หากคุณไปทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยใช้อำนาจหน้าที่ หรือแม้แต่เครื่องแบบของข้าราชการตำรวจเข้ามาหาประโยชน์ ให้ลาออกไป อย่ามาอยู่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสีย รวมทั้งเตือนไปยัง ข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ หากพบก็ต้องดำเนินการ รอง ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มของผู้ต้องหาที่อยู่ที่ต่างประเทศได้มีการประสานขอเข้ามอบตัว ซึ่งได้นำเรียนทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและมอบหมายให้ชุดทำงานของตำรวจไซเบอร์ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเราจะไม่มีเงื่อนไขใด ว่าไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่ากลับมามอบตัวแล้วจะต้องได้ประกัน การมอบตัวก็เป็นเรื่องของการมอบตัว การประกันตัวก็เป็นเริ่องของกระบวนการยุติธรรม

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img