หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบช.สอท." บุกรวบ โกดังบุหรี่ไฟฟ้า 2 จุดรวด ผงะ..!! เจอของกลาง มูลค่า เกือบ 100 ล้าน

“ผบช.สอท.” บุกรวบ โกดังบุหรี่ไฟฟ้า 2 จุดรวด ผงะ..!! เจอของกลาง มูลค่า เกือบ 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)แถลงผลการจับกุมเครือขายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับเติม จำนวน 138,254 ชิ้น มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท.ได้เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 327,400 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทต่อมาได้ขยายผลการสืบสวนจนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวเช่าโกดังแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสระบุรี เป็นที่เก็บของ จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 49/2 หมู่ที่ 2 ตำบลดาวเรือง อำเภอเมืองสระบุรี พบบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 135,600 ชิ้น มูลค่า 30 ล้านบาท และจับกุม นายแพท อายุ 28 ปี  และนายแก๊ป อายุ 35 ปี  ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดูแล จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกัน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่งคง ท่าเรือ รับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานศุลกากร” เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560”

นอกจากนี้ยังได้ขยายผลตรวจค้นร้าน Seoul Hub อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 49/5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, และร้าน WARP CAFÉ ที่ถนนโยธาธิการนนทบุรี สายท่าอิฐ ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี และจับกุมนายแบงค์ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รับบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยา มาจำหน่ายต่อ พร้อมยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า , น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า ได้อีก 2,654 ชิ้น มูลค่า 2 แสนบาท

พลตำรวจโท วรวัฒน์ เปิดเผยว่า เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าทที่ขยายผลจับกุมล่าสุดนั้นจะส่งจำหน่ายให้กับผู้ค้าในภาคกลาง โดยเฉพาะในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะขยายผลจับกุมเครือข่ายอื่นอย่างต่อเนื่อง

หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด ให้แจ้งมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ หรือทาง www.thaipoliceonline.com เพื่อไปตรวจสอบดำเนินการต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img