วันที่ 5 กันยายน 2565 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. กับพวก ได้ร่วมกันทำการจับตัว น.ส.จันทร์เพ็ญ สิงห์มณี อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1846/2557 ลง 17 ต.ค.57 ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันโฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความจริง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” จับกุม โรงแรมในซ.สุขุมวิท 59 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหากับพวก ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศ ชื่อ บริษัท เดอะ เอส เอส เอ็น จำกัด มีผู้ถูกจับกุม เป็นกรรมการบริษัท ต่อมาเมื่อประมาณเดือนมกราคม 2557 ได้มีผู้เสียหายกว่า 27 ราย ได้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับทัวร์ท่องเที่ยว โดยผู้ถูกจับกุมได้เสนอโปรแกรมทัวร์ประเทศญี่ปุ่น ECO Tokyo 5 วัน 4 คืน เดินทางในในวันที่ 1-5 พ.ค.57 โดยสายการบินไทย มีเสนอโปรโมชั่น พาชมภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ และสถานที่สำคัญต่างๆ คิดค่าบริการท่านละ 40,900 บาท ส่วนลดให้อีก คนละ 2,000 บาท เหลือ 38,900 บาท ผู้เสียหายเห็นว่ามีราคาถูก จึงได้ทำการจองทัวร์ดังกล่าวกับผู้ถูกจับกุม โดยได้โอนเงินชำระ เข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ เลขบัญชี 1018808871 ชื่อบัญชี บ. เดอะ เอส เอส เอ็น จำกัด หรือบางรายได้จ่ายเป็นเงินสดให้กับผู้ถูกจับกุม รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อใกล้กำหนดเดินทางผู้เสียหายได้สอบถามข้อมูลเดี่ยวกับการเดินทางกับผู้ถูกจับกุม อ้างว่ามีปัญหากับทางประเทศญี่ปุ่น ไม่สามารถจองห้องพักได้ และจะคืนเงินให้ หลังจากนั้นผู้เสียหายได้พยายามติดต่อ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อว่าถูกหลอกลวง ผู้เสียหายกับพวกจึงได้รมตัวกันมาพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวกที่เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ทราบว่า บริษัท เดอะ เอส เอส เอ็น จำกัด ไม่ได้ขอรับอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว จากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์แต่อย่างใด พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมได้ ในชั้นจับกุม และสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ขณะที่ การตรวจสอบประวัติผู้ถูกจับดังกล่าว พบว่า มีหมายจับอีกจำนวน 5 หมาย ของ สน. หัวหมาก ในความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค ซึ่งทั้ง 5 หมายจับ ได้ขาดอายุความหมดแล้ว “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”