นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน กล่าวว่า ฟังไม่ขึ้นกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกรับแทนกระทรวงพลังงานว่าการขึ้นราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊สหุงต้มกระทบประชาชนในปัจจุบันเป็นกลไกการตลาด ทั้งที่รัฐบาลมีหน้าที่แก้ไขปัญหากลไกการตลาดนั้นเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนในระยะที่เกิดปัญหา
นางมัลลิกา กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องทุกจากประชาชนทั่วประเทศจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นทุกด้านจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน เกิดความกังวลใจเนื่องจากทางการไหฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.ยังออกมาเตือนประชาชนว่าสถานการณ์พลังงานขณันี้จะทำให้ราคาค่าไฟอีก 6 เดือนข้างหน้าจะสูงขึ้นอีกด้วย
“คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ บอร์ดกกพ.มีหน้าที่ไปหามาตรการแก้ไขเฉพาะหน้าในปัจจุบันเพื่อไม่ให้กระทบหรือมาตรการบรรเทาทุกข์ประชาชน จึงขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้บอร์ดกิจการพลังงานนำเอากองทุนน้ำมันออกมาใช้แก้ไขปัญหาชั่วคราวเพราะราคาน้ำมันดิบโลกสูงขึ้นถ้าตามกลไกตลาดก็เป็นห้วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อประชาชนไทยเราเดือดร้อนตอนนี้ก็ควรนำมาตรการทางนโยบายออกมาใช้ จะได้บรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนประชาชนไปก่อน ในส่วนของระยะยาวฝ่ายนโยบายด้านกิจการพลังงานก็ควรจะไปดูระบบภาษีสรรพสามิตดีเซลว่ามากไปหรือไม่ ลดการจัดเก็บได้ไหม รวมทั้งระบบการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนไปอุ้มอย่างอื่นก็ลองพิจารณว่าจะสามารถลดภาระประชาชนได้อย่างไรต่อไป ”
นางมัลลิกา ยืนยันว่า ฝ่ายนโยบายรัฐบาลไม่ควรรอแค่กลไกตลาด เพราะประชาชนมีรัฐบาลเพื่อหวังพึ่งพาความสามารถในการแก้ปัญหาวิกฤติปากท้องประชาชนดังนั้นผู้มีหน้าที่จึงควรหามาตรการโดยเร็วหรือประชุมภาระเร่งด่วนสัปดาห์นี้ และอำนาจนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการได้เพราะเป็นประธานคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.โดยตำแหน่ง