วันที่ 26 มีนาคม 2565 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยถึง กรณีที่ปรากฏทางสื่อ ว่า สภ.ท่ายาง จับกุมผู้เสพยาบ้า 2 เม็ด แล้วได้ทำบันทึกการจับกุม โดยมีการลงชื่อร่วมจับกุม ถึง 40 กว่านาย ซึ่งต่อมา “มีการแชร์บันทึกจับกุมในโซเชียลไลน์” แล้วทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวของตำรวจในด้านลบ ด้วยเหตุเพราะเพียงแค่จับผู้เสพยาแค่ 2 เม็ด แต่การใส่ชื่อร่วมจับกุมเป็นห่างว่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นที่ขบขัน ในโชเชียลอย่างกว้าง
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี (ผบก.ภ.จว. เพชรบุรี) เร่งตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นการเขียนบันทึกจับกุมผู้ต้องหา ตามระเบียบของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) หรือไม่ พร้อมทั้งสั่งให้ตรวจสอบว่า บุคคลที่ลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุมดังกล่าว ได้มีส่วนร่วมกันจับกุมจริงหรือไม่ ถ้าหากปรากฎข้อเท็จจริงอย่างไร ให้ดำเนินการตามกรอบระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งรายงานให้ตนทราบโดยทันที
ผบช.ภ.7 กล่าวว่า วันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี (ผบก. ภ.จว.เพชรบุรี) ได้รายงานกรณี ดังกล่าวให้ทราบว่า ในข้อเท็จจริง แล้วบันทึกจับกุมที่มีการใส่ชื่อผู้จับกุม ถึง 40 นายดังกล่าว เป็นเอกสารที่ไม่ได้นำไปใช้ในการประกอบคดีจริง แต่เป็นเอกสารที่พิมพ์ขึ้นแล้วได้มีการทักท้วงจากพนักงานสอบสวนด้วยกันภายใน สภ.ท่ายาง แต่บันทึกดังกล่าวหลุดออกมา แล้วมีการนำไปแชร์ต่อจนทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จริง โดยต่อมา พนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวได้ทำบันทึกจับกุมที่ถูกต้องขึ้นใหม่ตามนโยบาย ผบช.ภ.7 และระเบียบที่เกี่ยวกับคดีมีไว้
ซึ่งในเอกสารบันทึกการจับกุมจริงนั้น มีเพียงแค่รายชื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่ 2 หน่วยเท่านั้น ตามนโยบายและข้อสั่งการของ ผบช.ภ.7 ที่ห้ามมีการใส่ชื่อบันทึกจับกุมเกิน 2 หน่วย เว้นแต่เป็นปฎิบัติหน้าที่ร่วมกันกับหน่วยอื่นจริง โดย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้สั่งให้ทุก พนักงานสอบ ทุก สภ.นำไปปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ต่อไป