หน้าแรกการเมือง'สมชัย' เปิดเฟสบุ๊คไลฟ์สด ไม่แน่ใจใครดูดใคร คาด ร่างพรป. ส.ส.-ส.ว. พิจารณาเสร็จ พ.ค.นี้

‘สมชัย’ เปิดเฟสบุ๊คไลฟ์สด ไม่แน่ใจใครดูดใคร คาด ร่างพรป. ส.ส.-ส.ว. พิจารณาเสร็จ พ.ค.นี้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)​ เริ่มทำการเฟสบุ๊คไลฟ์เป็นครั้ังแรก หลังจากพ้นจากตำแหน่ง กกต. โดยระบุว่า วันนี้ (30 เม.ย.) เป็นวันสุดท้ายที่พรรคการเมืองเดิม ที่ กกต.เปิดให้สมาชิกยืนยันความเป็นสมาชิกกับหัวหน้าพรรคการเมือง เข้าใจว่าทุกพรรคจะเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าอีก 1-2 วัน  จะทราบตัวเลขสมาชิกของแต่ละพรรคการเมือง เช่นพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเดิมมีสมาชิกกว่า 2,000,000 คน จะเหลือจำนวนเท่าใด พรรคมหาชน สมาชิก 1,000,000 คนจะเหลือเท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยสมาชิก 200,000 คนจะเหลือเท่าใด และเมื่อการยืนยันการเป็นสมาชิกแล้วจำนวนสมาชิกก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จำนวนสมาชิกจะชัดเจนก็ต่อเมื่อ คสช.ปลดล็อกทางการเมือง ที่จะมีการสมัครสมาชิกพรรคได้อีกครั้ง

ในตอนหนึ่ง นายสมชัย กล่าวถึงกระแสการเมืองเรื่องพลังดูด ส.ส.ว่า ไม่ทราบ ว่าใครดูดใคร เข้าใจว่าเป็นการเตรียมการไปสู่การเลือกตั้งของแต่ละฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ตนขอใช้ประโยคนี้ว่าใครก็ตามที่ถูกดูดได้ เราไม่น่าจะเลือกเขา แปลว่าเขาไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่แน่นอน เพราะถ้าหากคุณเป็นนักการเมือง คุณจะต้องมีจุดยืนว่าจะอยู่กับกลุ่มใด พรรคใด  เจตนาที่จะอยู่กับพรรคการเมือง คือ อุดมการณ์ร่วมกันในการที่จะร่วมกันทำงานทางการเมืองให้เกิดความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องเพียงแค่ว่า อยากจะดูว่าตัวเองจะมีโอกาสไปร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ ตรงไหนไปได้ก็จะเฮไปทางซีกนั้น ซึ่งตนมองว่าสิ่งนี้ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อการเมืองไทย

“คนที่ไปดูดคนอื่นเขา หากเรียกว่าเป็นการไปทาบทาม คนซึ่งมีอุดมการทางการเมืองมาร่วมกันทำงานอันนั้นก็อาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากจะทำการเมืองและไปแสวงหาคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง และพร้อมที่จะมาทำงานภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน อันนี้จึงเรียกว่าเป็นการทาบทาม แต่หากไม่ได้สนใจอะไรเขา ว่าเป็นใคร มีประวัติการทำงานอย่างไร มีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร เคยมีพฤติกรรมทางการเมืองในอดีตเป็นที่ชื่นชอบ หรือเป็นที่น่ารังเกลียดของคนในบ้านเมืองอย่างไร แต่จะเอาคนนั้นมาเป็นเพราะเขามีโอกาสได้เป็น ส.ส.หรือมีคะแนนเสียงในพื้นที่ มีความเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็ดึงมาร่วมอันนี้ก็ขอใช้คำว่าน่าเกลียด เท่ากับว่าดูดไม่เลือก ไม่มีการใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองคนดีเข้ากลุ่ม ไม่ได้ทำการเมืองอย่างสร้างสรร” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย ยังกล่าวว่า ขณะเดียวกันในมุมของคนที่ถูกดูดก็คงต้องคิดอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าหากคุณถูกดึงไปจะสามารถทำงานการเมืองภายใต้อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับที่มีอยู่หรือไม่ ถ้าได้ก็ไป ถ้าคิดว่าไปแล้วได้เป็นรัฐบาลไม่ใช่สิ่งที่ดี ไม่ใช่การเมืองอย่างสร้างสรร อยากให้คนที่ดูด ดูด้วยว่าคนที่จะไปดูดเป็นคนดีหรือไม่ ขณะเดียวกันคนที่ถูกดูดก็ต้องคิดด้วยว่าพรรคหรือหน่วยงานที่คุณจะไปอุดมการณ์เหมือนกับคุณหรือไม่

ในช่วงหนึ่ง นายสมชัย กล่าวถึงกรณีที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ  ว่า หลังจากนี้ ต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ว่าจะออกมาอย่างไร เข้าใจว่าภายในเดือนพฤษภาคมน่าจะทราบผล ว่าประเด็นที่เสนอให้ศาลพิจารณาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดก็ต้องใช้ระยะเวลาในการปรับแก้ไข และต้องไปลงมติใหม่ใน สนช.ก่อนที่นายกฯ จะนำร่างฯขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ต้องใช้เวลา จะบอกว่าไม่ใช้เวลาก็คงไม่ใช่ ทุกอย่างก็คงจะต้องขยับออกไปตามกรอบของเวลา

โพสต์โดย Somchai Srisutthiyakorn เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2018


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img