ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่ประเทศซีเรีย ว่า จากการติดตามคนไทย 2 คน ซึ่งแต่งงานกับคนซีเรีย และพำนักในประเทศซีเรีย ล่าสุดพบว่ายังปลอดภัยดี อย่างไรก็ตามหากเรื่องบานปลาย จะส่งผลกระทบทั้งโลก ซึ่งทุกคนต่างตั้งความหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามใช้ความสามารถอย่างที่สุดในการไม่ให้เรื่องนี้บานปลาย หรือเลวร้ายลง เสื่อมโทรมลงไปอีก นี่คือประเด็นใหญ่ที่สุดที่ทุกประเทศตั้งวนอยู่
นายดอน กล่าวอีกว่า ส่วนการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มประเทศอาเซียนได้ร่วมจับตา แต่ยังไม่มีการแสดงท่าทีใดๆ เพราะขณะนี้แต่ละฝ่ายยังเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะมีความคลี่คลาย และประเทศใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหาทางออกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายดอน กล่าวว่า อีกทั้งทุกประเทศต้องการเห็นความพยายามอย่างเต็มที่ของทุกฝ่ายที่จะหาทางออกให้กับปัญหานี้ ขณะเดียวกันในเรื่องของมนุษยธรรมว่าใครจะช่วยประชาชนชาวซีเรียที่ต้องทนทุกข์ปัญหาดังกล่าวมานานกว่า 7 ปี หากใครช่วยด้านมนุษยธรรมได้ก็ช่วยกัน
“อย่างที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าหากเหตุการณ์บานปลาย ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่หลายประเทศทั่วโลกย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน ดังนั้นทุกประเทศกังวล และต้องการให้ประเทศที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออกจากสิ่งที่เลวร้ายและเสื่อมโทรมนี้ นอกจากนั้นหากประเทศใดต้องการช่วยเหลือด้านมนุษยชนกับคนซีเรียก็สามารถทำได้ ขณะเดียวกันยังต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ความมีอยู่จริงของอาวุธเคมีในซีเรียเข้าตรวจสอบให้เป็นที่ประจักษ์” นายดอน กล่าว
นายดอน กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตว่าการที่ 3 ชาติโจมตีซีเรีย และท่าทีของรัสเซียต่อเรื่องดังกล่าวอาจนำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ว่า เป็นสถานการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น และตนเชื่อว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องและทุกๆ ฝ่ายได้ตระหนักถึงความเสียหายจำนวนมหาศาลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือมีความเลวร้าย และต้องทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ส่วนองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่จับตาเรื่องความไม่สงบที่ซีเรีย นานนับ 7 ปี คงอยากเห็นฝุ่นจางลง และเมื่อฝุ่นสถานการณ์จางลงแล้ว ประเทศต่างๆคงได้แสดงความเห็นกันมากขึ้นและเชื่อว่าจะไม่ทำให้สถานการณ์คุกรุ่นไปกว่าเดิม
“สถานการณ์โดยรวมคนไทยไม่น่าจะเป็นห่วง เพราะถ้าจะบานปลายไป ก็จะส่งผลกระทบต่อคนทั้งมวลไม่เฉพาะคนไทย ส่วนท่าทีของอาเซียน เราคุยกันแล้ว และยังติดตามเรื่องนี้อยู่ เพราะถือว่าเรื่องยังไม่นิ่ง ขณะนี้ได้เพียงรับฟังประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่ให้ข่าวกันอยู่ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเป็นประเทศที่เข้าไปมีบทบาทโดยตรง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก เพราะ 7 ปีแห่งการสู้รบ แต่ไม่ว่าจะซับซ้อนอย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนปรารถนา คือ อยากให้เรื่องนี้ผ่อนคลายลง ไม่เกิดการกระทบกระทั่งจนส่งผลให้สถานการณ์เสื่อมโทรมลง”
เมื่อถามถึงท่าทีของประเทศจีนต่อเรื่องดังกล่าว นายดอนกล่าวว่า ประเทศจีนได้แสดงท่าทีแล้วว่า ทุกเรื่องราวจะต้องหาทางออกทางการเมืองตามหลักการของ สหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศ และอื่นๆ เป็นท่าทีที่สอดคล้องกับทุกประเทศที่ต้องการหาทางออกทางด้านการเมือง มีการเจรจาหารือหาทางออกให้ได้
เมื่อถามว่าแต่ยังมีบางส่วนเป็นห่วงเนื่องจากทางองค์การสหประชาชาติไม่กล้าลงมาแตะเรื่องนี้ นายดอน กล่าวว่า ยูเอ็นได้พูดเรื่องนี้มาตั้ง 7 ปีแล้ว ดังนั้นถึงวันนี้ยูเอ็นก็ต้องการเห็นเรื่องนี้เป็นฝุ่นจางลง และเมื่อใดก็ตามที่ฝุ่นจางลง จะทำให้อีกหลายประเทศคงสามารถให้ความเห็นได้มากขึ้นกว่านี้
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์คุกรุ่นขึ้น ประเทศสมาชิกของยูเอ็นจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร นายดอน กล่าวว่า ต้องช่วยกันไม่ให้คุกรุ่นขึ้น ซึ่งขณะนี้เป็นความพยายามของทุกฝ่าย ที่จะทำให้เรื่องคลี่คลายหรือไปถึงขั้นที่สงบได้ ดังจะเห็นได้ว่า ทุกประเทศที่มีส่วนร่วมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต้องการที่จะหาทางออกทั้งนั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้สถานการณ์เลวร้ายลง จนกระทั่งมีผลกระทบต่อประชาชนของตนเอง ขอให้เอาใจช่วยกันเพื่อช่วยกันให้ เรื่องราวของโลกดีขึ้น