นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ผลการประชุมของคณะกรรมาธิการพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่..) พุทธศักราช..ก่อนรับหลักการ นัดแรก ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเลือก นายวิรัช รัตนเศรษฐ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ว่า ส่วนตัวเห็นว่า นายวิรัช มีความเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าวมากที่สุด เพราะเป็นประธานวิปรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจแทนพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เกี่ยวกับการลงมติในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฉบับได้ และนายวิรัช ยังมีหน้าที่โดยตรงในการผลักดันให้ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคร่วมรัฐบาล ได้รับการสนับสนุนลงมติรับหลักการในวาระหนึ่งให้จงได้ อีกทั้งยังเป็นผู้อาวุโสทางการเมือง มีบารมีเพียงพอที่จะไปพูดคุยต่อรอง และทำความเข้าใจกับสมาชิกวุฒิสภาได้ และยังเป็นสายตรงของผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งสามารถสื่อสาร หรือส่งสัญญาณใดๆผ่านนายวิรัช ไปสู่สมาชิกวุฒิสภาได้โดยตรง และไม่ใช่เรื่องยากหรือเกินความสามารถของนายวิรัช ที่จะโน้มน้าวให้สมาชิกวุฒิสภา ลงคะแนนสนับสนุนร่างญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล ในวาระ 1 ขั้น รับหลักการ จำนวน 84 คนได้ ส่วนเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.มีไม่น้อยกว่า 450 คน อย่างแน่นอน
ส่วนการทำงานของคณะกรรมาธิการชุดนี้ เชื่อว่าไม่น่ามีอะไรสลับซับซ้อนมากนัก เพียงแต่นำผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดที่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน มาศึกษาก็จะรู้ปัญหา และจุดอ่อนขอรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ทั้งหมด ว่ามีประเด็นใดบ้าง ควรจะได้รับการแก้ไขบ้าง ไม่จำเป็นต้องเชิญตัวแทนพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมชี้แจงด้วยก็ได้ เพราะในรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ได้มีตัวแทนของพรรคการเมืองทุกพรรคเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการด้วย และได้แสดงความคิดเห็นหรือได้แสดงจุดยืนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค บันทึกไว้ในรายงานผลการศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว