ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบโอวาทและปิดการฝึกซ้อม ฯ ว่า วันนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สอดประสานกันอย่างชัดเจนตามแผนและแนวปฏิบัติ ช่วยป้องกันความสับสนเมื่อเกิดสถานการณ์จริง นอกจากจะเป็นดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานและข้อพึงปฏิบัติขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศแล้ว ยังเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างหน่วยงาน ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ ศักยภาพตลอดจนขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ให้สามารถปฏิบัติงานค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเกิดกรณีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญทั้งการจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความจำเป็นที่ต้องมีการทบทวนฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ นายกฯ ย้ำว่า การเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต้องประกอบกันหลายด้าน ทั้งความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองรัฐบาลมี ขอเพียงให้ทุกคนตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญในหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน และปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยความรัก ความสามัคคีของทุกคนเพื่อนำประเทศเดินหน้าไปสู่วิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”