เชื่อจัดฉากฆาตกรรม สงสัยฝีมือลูกเลี้ยงตำรวจ หวั่นไม่ได้รับตวามเป็นธรรม หลังพบผลชันสูตรไม่ตรง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายธนิต ชูเป็ง อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ตรัง เขต อ.หาดสำราญ จ.ตรัง พานายเวียง สิทคชวัน อายุ 58 ปี และนางเครือวัลย์ สิทคชวัน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.ต.วิสูตร บุญยังมาก สว.สอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อร้องขอให้ทางกองปราบรับโอนคดีนายธนวิชญ์ สิทคชวัน อายุ 24 ปี ลูกชาย นายเวียง ที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาบริเวณคลองสาธารณะ ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2562 มาอยู่ในความรับผิดชอบ หลังเชื่อว่าการเสียชีวิตของ นายธนวิชญ์ เป็นการจัดฉากฆาตกรรม และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดี เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นลูกชายบุญธรรมของตำรวจในพื้นที่
นายธนิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2562 ได้มีผู้พบศพ นายธนวิชญ์ เสียชีวิตอยู่ในคลองข้างแปลงผัก ในสภาพนอนคว่ำหน้าในคลอง ส่วนขาอยู่บนตลิ่ง ด้านหลังมีรอยถลอก และพบจอบตกอยู่ใกล้กัน หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา จ.ตรัง และแพทย์ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพศพลงความเห็นว่าถูกไฟฟ้าดูด ทางครอบครัวจึงนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด เพราะไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งในระหว่างตั้งบำเพ็ญกุศลได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าวันเกิดเหตุได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของนายธนวิชญ์ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจนำศพส่งไปชันสูตรใหม่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ผลการชันสูตรแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการที่สมองถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม จึงนำผลมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพราะเชื่อว่าเป็นการจัดฉากฆาตกรรม ไม่ใช่อุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร
นายธนิต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางครอบครัวเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายธนวิชญ์ คือ นายบี (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่งใน สภ.รัษฎา โดยมีชนวนเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องชู้สาว เนื่องจากก่อนเกิดเหตุสองวันผู้ตาย เคยมาเล่าให้นางเครือวัลย์ ผู้เป็นแม่ฟังว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) แฟนสาวแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นายบี ประกอบกับหลังเกิดเหตุ น.ส.เอ ได้แอบหยิบเอาโทรศัพท์ของผู้ตายไปจากที่เกิดเหตุ พอทางครอบครัวเริ่มสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ไปขอโทรศัพท์กลับคืนมา พบว่าข้อความจำนวนมากถูกลบหายไป อีกทั้งเมื่อตรวจสอบบริเวณเสาไฟที่เกิดเหตุก็ไม่พบว่ามีไฟรั่วแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีเงื่อนงำมากกว่านี้
เมื่อพยายามติดต่อสอบถามความคืบหน้าทางคดีกับทางตำรวจท้องที่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงอ้างว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบจนเวลาล่วงเลยผ่านมากว่า 1 ปี คดีดังกล่าวก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ในวันนี้ทางครอบครัวของผู้ตายจึงตัดสินใจมาเข้าพบตำรวจกองปราบอีกครั้งเพื่อร้องขอให้รับโอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าหากยังให้ตำรวจท้องที่ทำคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้านพนักงานสอบสวนกองปราบเบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องเพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาป็นผู้พิจารณาสั่งการต่อไป