วันที่ 9 ก.ค.63 : กระทรวงพาณิชย์-กรมการค้าภายใน-สมาคมภัตตาคารไทย-สมาคมเชฟฯ ร่วมช่วยระบายปลากะพงให้เกษตรกร จัดงาน “พาณิชย์เทใจใส่กระชัง” ขนปลากระพง 3 น้ำสงขลากระตุ้นการบริโภคปลาในประเทศระหว่างวันที่ 9 -12 กรกฎาคม 2563 นี้ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายกสมาคมภัตตาคารไทยนำ 19 ร้านดังร่วม คาดสะพัด 200 ล้าน ร่วมบูมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหาการระบายปลากะพงให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาภาคใต้ โดยกรมการค้าภายในได้เจรจากับภาคเอกชนและห้างค้าปลีกชื่อดัง อาทิ แม็คโคร เทสโก้ โลตัส ท็อปส์ บิ๊กซี ฟู๊ดแลนด์ และวิลล่ามาร์เก็ต รวมทั้งสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมภัตตาคารไทย -สมาคมเชฟและสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สามารถระบายปลากะพงได้กว่า 600 ตัน ในราคาตันละ 130,000 บาท และมั่นใจว่าต่อไปราคาปลากะพงจะปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้จัดทำโครงการ “พาณิชย์เทใจใส่กระชัง ปลากะพง 3 น้ำ@สงขลา” กิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการบริโภคปลากะพง 3 น้ำ จากจังหวัดสงขลาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา โดยนำร่องจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 9 -12 กรกฎาคม 2563 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด “ชิค ชิม แชร์ ชิล” ที่ยกบรรยากาศทะเล อาหารทะเลสดๆ รวมถึงปลากะพงสดและแปรรูป มาอยู่ที่ห้างใหญ่ใจกลางเมืองเสมือนนั่งอยู่ที่ทะเลทางภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีการแสดง การสาธิตทำเมนูปลากะพงจากเชฟชื่อดัง การแข่งขันทำอาหารจากปลากะพง ตลอดจนมีร้านอาหารและภัตตาคารชื่อดังมาร่วมออกร้านในเมนูปลากะพง เพื่อร่วมสนับสนุนการบริโภคปลากะพงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ตนเองจะร่วมกิจกรรมแข่งขันทำอาหารจากเมนูจากปลากะพง 3 น้ำ ด้วย
สำหรับจุดเด่นของปลากะพง 3 น้ำ ทะเลสาบสงขลานั้น เนื่องจากความได้เปรียบเชิงนิเวศธรรมชาติทำให้น้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา มีทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อยไหลมารวมกัน จึงทำให้อาหารทะเลทุกชนิดที่นี่มีรสชาติอร่อยกว่าที่อื่น รวมทั้งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงในกระชังได้อย่างมีคุณภาพซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญในจังหวัดสงขลาอีกด้วย
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้จัดทำแผนกิจกรรมรณรงค์การบริโภคปลากะพง 3 น้ำ จากจังหวัดสงขลาและภูมิภาคอื่นๆ ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เกษตรกรต้องคำนึงถึงคุณภาพของปลากะพงที่นำมาจำหน่าย โดยขอให้ทางจังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลในการจับปลาและการคัดแยกให้เป็นไปตามขนาดน้ำหนักที่ผู้ประกอบการแต่ละรายให้คำสั่งซื้อ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและเป็นการรักษาชื่อเสียงความอร่อยปลากะพง 3 น้ำทะเลสาบสงขลา
นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ในจังหวัดสงขลา มีเมนูปลากะพงเป็นวัตถุดิบอย่างน้อย 2-3 เมนู เพื่อเพิ่มช่องทางและกระตุ้นการบริโภคปลากะพงในพื้นที่ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในจะสนับสนุนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยและรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้นำ 19 ร้านอาหารและโรงแรมเข้าร่วมได้แก่ 1 เลอปลาแดก 2 Too Fast To Sleep 3 ไร่ไม่จน 4 HEAVY PIZZA 5 กินดะ ป่ะทะจุ่ม เขาเต่า 6 วี ฟาร์ม เดลิเวอรี่ 7 ครัวมัณฑนา 8 กล่องแสนศุข 9 ป้อนคาเฟ่ 10 จี๊กิม บะหมี่ฮกเกี้ยน 11 มะละกอ 12รร.คิงปาร์ค อเวนิว 13 กูร์เมท์พรีโม่ 14 โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพ 15 Black Canyon 16 เทพรส Express 17 ครัวเจ๊ง้อ 18 สมาคมเชฟประเทศไทย 19 หัวปลาช่องนนทรี โดยสมาคมจะร่วมจำหน่ายปลากะพงในงาน 4 วันรวม 8 ตัน (8 พันกิโลกรัม) หรือวันละ 2 ตัน โดยคาดว่าหลังจากงานจะมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าอีกจำนวนมาก และจะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดสู่ผู้เกษตรกรเลี้ยงปลาและสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจร้านอาหารราว 200 ล้านบาท แต่หากประเมินตลาดการบริโภคทั้งหมดแล้ว คาดว่าจากการจัดงานนี้ในที่สุดจะสร้างเม็ดเงินหมุนจากการต่อยอดของธุรกิจร้านอาหารและท่องเที่ยวได้ถึง 600 ล้านบาทเลยทีเดียว
ภายในงานสมาคมภัตตาคารไทยและสมาคมเชฟประเทศไทยได้จัดกิจกรรมสร้างสีสัน เช่น เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทยส่งเชฟร่วมสาธิตการแล่ปลา,เจ๊ง้อ หรือ ณชนก แซ่อึ้ง เจ้าของครัวเจ๊ง้อจะลงมือทำเมนูปลากะพงเด็ดๆ,สุรวัช อัครวรมาศ เจ้าของบริษัทเค.ที.เค. ทัวร์ เอ็นเตอร์ไพร้ส์ จำกัด ซึ่งฝ่าวิกฤตโควิดจากทัวร์มาทำ บะหมี่ฮกเกี้ยนปลากะพง , เชฟจากัวร์ ธีรวีร์ ดิษยะไชยพงศ์ ทำเมนูกะพงแซ่บจี๊ด รวมถึงเชฟชุมพล แจ้งไพร ก็จะร่วมทำเมนูเด็ดๆจากปลากะพงด้วย
นอกจากการสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารแล้ว นางฐนิวรรณกล่าวว่า ตนขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลสาบสงขลา เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งอาหารทะเลธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีความสวยงาม สามารถเดินทางท่องเที่ยวชมธรรมชาติ หรือท่องเที่ยวในเส้นทางอาหาร (Gastronomy Tourism) ได้อีกด้วย